Finance

หมู..ไม่หมู!! ลุ้นหุ้นไทยปี ‘หมูทอง’ ทะยาน 2,000 จุด

หุ้นไทยปี 2561 ปิดศักราชไปแบบไม่น่าพิสมัยเท่าใดนัก แม้ดัชนีวันสุดท้ายของปีจะสามารถปรับขึ้นมายืนในแดนบวกได้โดยปิดการซื้อขายที่ 1,563.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.51 จุด หรือ 1%

แต่หากเทียบกับดัชนีเปิดตลาดวันแรกของปีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 ที่พุ่งทะยานไปถึง 1,778.53 จุด นับเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2518 ส่งผลให้มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ปรับขึ้นสูงสุดเป็น 18.17 ล้านล้านบาท และทำดัชนีสูงสุดระหว่างวันที่ 1,779.55 จุด ดัชนีต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,758.07 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 85,850.49 ล้านบาท

หุ้น9

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับดัชนีปิดตลาดวันแรกของปีที่ 1,778.53 จุด และดัชนีวันสุดท้ายของปีที่ 1,563.88 จุด เท่ากับว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับลดลงถึง 214.65 จุด หรือประมาณ 12.06% แต่หากเทียบกับดัชนีปิดตลาดของปี 2560 ที่อยู่ระดับ 1,753.71 จุด เท่ากับดัชนีปรับลดลง 10.82%

โดยระหว่างปี 2561 ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ที่ 1,838.96 จุด และดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561ที่ 1,548.37 ล้านบาท

ขณะที่ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,409.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.12% จากปี 2560 ที่อยู่ระดับ 47,755.37 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติเทขายหนักสุดถึง 287,458.82 ล้านบาท จากปี 2560 ที่ขายสุทธิเพียง 25,755.41 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับลดลงเหลือ 16,219,068.83 ล้านบาท ลดลง 9.52% จากปี 2560 ที่อยู่ระดับ 17,926,269.66 ล้านบาท

แนวโน้มหุ้นไทยปี “หมูทอง”

ค่ายยักษ์อย่าง “ไทยพาณิชย์” ประสานเสียงหุ้นไทยทะยานไกลถึง 2,000 จุด โดยนายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ ย้ำเป้าดัชนีปี 2562 จะปรับขึ้นแตะ 2,000 จุด โดยตลาดหุ้นไทยจะเป็นประเทศเป้าหมายกลุ่มบนที่เม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับเข้ามา เพราะมีระดับพี/อีที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค และให้ผลตอบแทนดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ขณะที่กำไร บจ.ไทย จะเติบโตได้ถึง 10% โดยจะได้อานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ

ขณะที่นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนโดยมาจากปัจจัยภายนอก เชื่อว่า เมื่อปัจจัยต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น ตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นไม่แพง ประกอบกับปัจจัยในประเทศสนับสนุนโดยเฉพาะการเมืองในประเทศ หากกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอน จะเป็นปัจจัยบวกดึงให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นถึง 2,000 จุด ปี 2562

setup2

“สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน” มอง 1,850 จุด

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2562 จะอยู่ที่ 1,850 จุด ปัจจัยบวกหลักจะมาจากการเติบโตของภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่ม บจ.ขนาดใหญ่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการกระจายลงทุนหลากหลาย ซึ่งคาดว่ากำไรจะเติบโตได้ระดับถึง 10%

ขณะที่ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ มองว่า กรอบดัชนีปี 2562 อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1,850 จุด ซื้อขายที่ระดับพี/อีเฉลี่ย 15.6 เท่า และกำไร บจ.เติบโตเฉลี่ย 8%

เช่นเดียวกันนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 1,850 จุด โดยหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน เช่น PTTEP ราคาเป้าหมายที่ 167 บาท , WHA ราคาเป้าหมายที่ 5.5 บาท , BEC ราคาเป้าหมายที่ 7-8 บาท

หุ้นขึ้น4

กลุ่มโรงไฟฟ้าน่าสน

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าคาดอยู่ที่ 1,760 จุด โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มโรงพยาบาล หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน แนะนำ JAS โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 11.45 บาท PTG ที่ราคา 10.25 บาท AAV ที่ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท และ BBL ที่ 240 บาท

แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย 50%

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP) มองเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ปีหน้า 1,795 จุด ด้าน P/E 16 เท่า ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นจากมุมมองเดิมคือเป้า SET ที่ 1,662 จุด และ P/E ที่ 15 เท่า โดยแนะนำลงทุนหุ้นไทยปีหน้าเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 50% จากเดิม 40% เน้นหุ้นที่อ้างอิงการเติบโตตามเศรษฐกิจในประเทศ ได้แก่ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น KBANK และBBL รับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ,หุ้นส่งออกที่ปรับตัวจากผลกระทบการค้าโลกได้ HANA ,หุ้นสาธารณูปโภค SCC, STEC, WHA หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภาคครัวเรือน ADVANC, DTAC, PLANB

Avatar photo