COLUMNISTS

อสังหาฯภูเก็ตยังคงเติบโตดีด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

Avatar photo
กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
225

ปี 2561 ที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กระจายไปตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศซึ่งเป็นไปตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ภาครัฐได้วางแผนพัฒนาครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้าไปปักหมุดพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน เขาใหญ่ และภูเก็ต ทั้งนี้หากพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะพบว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจอย่างมาก แม้ในปี 2561 ที่ผ่านมาภูเก็ตจะมีปัจจัยลบด้านการท่องเที่ยว แต่เหตุใดภาคอสังหาริมทรัพย์จึงยังคงมุ่งหน้าพัฒนาโครงการบนเกาะสวรรค์ที่ถูกขนานนามว่าไข่มุกแห่งอันดามันนี้

ทะเล ภาพ plus1
ภาพจาก Plus Property

จากการสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้พบว่า ปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าไปลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จำนวน 6 โครงการ 1,727 ยูนิต มียอดตอบรับแล้ว39% หรือดูดซับเฉลี่ย 54 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการกลุ่มราคาสูง และเมื่อพิจารณาจากโครงการที่กำลังมีการเสนอขาย พบว่าราคาที่น่าสนใจอยู่ในกลุ่มราคามากกว่า 120,000 บาท/ตร.ม. ที่มีจำนวนการเสนอขายสูงสุดคิดเป็น 43% ของคอนโดมิเนียมทั้งหมดในตลาด สอดคล้องกับอุปสงค์ต่อโครงการในราคาระดับดังกล่าวที่ให้การตอบรับในเกณฑ์ดี อยู่ที่ 57% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า (49%) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโซนติดทะเลที่สามารถดึงดูดลูกค้าที่มีกำลังซื้อได้ โดยตลาดคอนโดมิเนียมในภาพรวมของภูเก็ตนั้นเจาะกลุ่มเป้าหมายสำหรับเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือ ซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยว

และอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญคือ สำหรับกลุ่มคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีอยู่หลากหลาย นอกจากนี้ยังพบว่าภูเก็ตเองเป็นแหล่งสถาบันการศึกษานานาชาติมากมาย จึงทำให้ จ.ภูเก็ตยังคงมีความคึกคักและมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่งความต้องการนี้สวนทางกับพื้นที่ของภูมิประเทศของภูเก็ตที่มีลักษณะเป็นเกาะ ทำให้ที่ดินเริ่มมีจำกัด ดังนั้นโครงการคอนโดมิเนียมจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับประชากรแฝงของภูเก็ตที่เดินทางไปทำงานหรือไปศึกษาต่อ

อย่างไรก็ตามในส่วนของปัจจัยที่กระทบการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปีนี้นั้นเชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น เพราะปัจจัยพื้นฐานของภูเก็ตที่เป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีทัศนียภาพที่งดงามเลื่องลือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวครบครัน มีทั้งท่าเทียบเรือยอร์ช และเรือสำราญขนาดใหญ่ รวมถึงเดินทางสะดวกได้ทางเครื่องบิน อีกทั้งในอนาคตเศรษฐกิจในภูเก็ตมีแนวโน้มขยายตัวตามการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยรัฐบาลจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ทั้งในโครงการการพัฒนาสนามบินภูเก็ต เฟส 3, โครงการภูเก็ต สมาร์ทซิตี้, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รวมไปถึงแผนการขยายท่าเรือน้ำลึก เพื่อให้สามารถรองรับเรือโดยสารระหว่างประเทศขนาดใหญ่ และเรือสินค้าเข้าจอดหน้าท่าได้พร้อมกัน

ทะเล ภาพ plus2
ภาพจาก Plus Property

รวมถึงแผนการแก้ปัญหาการจราจรด้วยการสร้างอุโมงค์เพิ่มเติม เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองภูเก็ตในอนาคต ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและนักลงทุนเข้าสู่จังหวัดเพิ่มมากขึ้น ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในปีนี้ก็เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวจากยุโรปและอินเดียยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดสมาคมโรงแรมภาคใต้ เปิดเผยถึงจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตขยายตัวเพิ่มขึ้นติด 1 ใน 5 ของนักท่องเที่ยวที่เข้าพักของแต่ละโรงแรม โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว นักธุรกิจ กลุ่มไมซ์ และคู่รักคู่แต่งงานที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูง ช่วยหนุนรายได้การจัดงานและเข้าพักกว่า 10-20% นอกจากนั้น คาดว่าอีก 3 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียจะเดินทางเข้าไทยเพิ่มกว่า 1 เท่าตัว เพราะคนอินเดียต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และใน 5 ปี อาจเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทยแซงนักท่องเที่ยวจีน

จากศักยภาพด้านพื้นที่ของ จ.ภูเก็ตที่ยังคงแข็งแกร่งนี้จึงไม่แปลกใจที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังเป็นเป้าหมายแห่งอนาคต ซึ่งสะท้อนได้จากราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่ภูเก็ตที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 3 ปี มีการปรับเพิ่มขึ้น 12% อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจึงไม่ใช่เพียงเพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้นแต่ยังหมายถึงการลงทุนที่น่าสนใจเช่นกัน