ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดซื้อขายในวันนี้ (28 ธ.ค.) ปรับตัวลดลง สวนทางขาขึ้นในวอลล์สตรีท จากการที่นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังจากที่หุ้นทะยานขึ้นเมื่อวันก่อน
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุด ปรับตัวลงมา 98.72 จุด หรือ 0.49% มาอยู่ที่ 19,978.90 จุด ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.)ที่ 23,138.82 จุด พุ่งขึ้น 260.37 จุด หรือ 1.14% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,488.83 จุด เพิ่มขึ้น 21.13 จุด หรือ 0.86% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 6,579.49 จุด เพิ่มขึ้น 25.14 จุด หรือ 0.38%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดสหรัฐ เต็มไปด้วยความผันผวนอย่างมาก หลังในช่วงเช้าของการซื้อขาย ดาวโจนส์ร่วงลงไปอย่างหนัก แต่ได้แรงช้อนซื้อในช่วงท้ายของวันที่หนุนให้กลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังในการซื้อขาย และจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงวิกฤติชัตดาวน์ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลงไปอีก 2.31 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 52.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันกลับมาอยู่ในขาลงอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 883 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันมากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ต้นเดือนพฤจิกายน
ทางด้านราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ทะยานขึ้นมาอีก 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.64% มาอยู่ที่ออนซ์ละ 1,281.1 ดอลลาร์
