รัฐบาลอินเดียออกกฏที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซของ 2 ยักษ์ค้าปลีกรายใหญ่ จากสหรัฐ “อเมซอน” และ “วอลมาร์ท” ด้วยการห้ามทั้ง 2 บริษัทขายสินค้าที่จัดหาโดยบริษัทในเครือบนเว็บไซต์ขายสินค้าสัญชาติอินเดีย และห้ามนำเสนอส่วนลดพิเศษ หรือสินค้าแบบเฉพาะ สำหรับลูกค้าในแดนภารตะ
นโยบายใหม่ดังกล่าวของรัฐบาลอินเดีย อาจทำให้ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทั้ง 2 รายนี้ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ทำธุรกิจในอินเดียครั้งใหญ่ โดยอเมซอนอาจจะต้องยุติการแข่งขันกับผู้ค้าอิสระ และยุติการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่บริษัทถือลิขสิทธิ์อยู่ อย่าง ลำโพงเอโค สมาร์ท ในอินเดีย ตลาดเกิดใหม่เบอร์ 1 ของบริษัท
สำหรับวอลมาร์ทนั้น กฎใหม่ที่ออกมาจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อแผนการของบริษัทที่ในปีนี้ทุ่มเงินไปถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้น 77% ในฟลิปคาร์ท ผู้ค้าปลีกออนไลน์หมายเลข 1 ของอินเดีย โดยหวังที่จะขายเสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
กฏดังกล่าวยังจะทำให้วอลมาร์ทไม่สามารถนำความเชี่ยวชาญด้านซัพพลายเชน และอิทธิพลที่มีต่อผู้ค้าปลีกรายต่างๆ เพื่อกดราคาสินค้าลงมาสำหรับผู้บริโภคในอินเดียได้
ตัวแทนของอเมซอน และฟลิปคาร์ทในอินเดีย ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 กล่าวแต่เพียงว่า บริษัทกำลังประเมินสถานการณ์นี้อยู่
รัฐบาลอินเดีย ประกาศกฏข้อบังคับใหม่นี้ โดยไม่ได้ออกคำเตือนล่วงหน้าแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการเปิดเผยออกมาในช่วงเวลาที่โลกธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ เริ่มหยุดดำเนินการในช่วงเทศกาลปลายปีแล้ว
“เมื่อถึงที่สุดแล้ว ผู้บริโภคจะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากสุด เพราะผู้ค้าอินเดียไม่ได้มีขนาดใหญ่มากพอที่จะนำเสนอประสบการณ์ดีๆ ให้กับลูกค้าได้ เรื่องนี้ถือเป็นนโยบายที่ก้าวถอยหลังอย่างมากของรัฐบาลอินเดีย” ซาติช มีนา นักวิเคราะห์อาวุโส จากฟอร์เรสเตอร์ บริษัทวิจัยเทคโนโลยีในอินเดีย กล่าว
แต่เดิมนั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย มีนโยบายที่จะดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น หลังจากที่เขาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 แต่รัฐบาลของเขากลับหันไปชูนโยบายปกป้องการค้า จากการที่โอกาสที่พรรคของเขาจะได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งลดน้อยลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
นายโมดีได้เพิ่มความพยายามที่จะสนับสนุนบริษัทอินเดีย และควบคุมธุรกิจต่างชาติ ผ่านการออกนโยบายใหม่ๆ รวมถึง ข้อกำหนดที่ให้บริษัทต่างชาติ อย่าง วีซ่า มาสเตอร์การ์ด และอเมริกัน เอ็กซ์เพรสต้องเก็บข้อมูลของลูกค้าอินเดียทั้งหมดไว้ภายในประเทศ
นอกจากนี้ ยังประกาศเจตนารมณ์ ออกกฎหมายที่มีความเข้มงวดมากขึ้นต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้วย
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า กฎอีคอมเมิร์ซใหม่ดังกล่าวเป็นเหมือนความพยายามของนายโมดี ที่จะปลอบโยนผู้ค้ารายเล็ก ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงิน และภาษีของเขา ก่อนถึงการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2562
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ยังจะช่วยให้เพย์ทีเอ็ม ผู้ให้บริการชำระเงินท้องถิ่น ที่บริหารกิจการศูนย์การค้าดิจิทัล และรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ กลุ่มธุรกิจของนายมูเคช อัมบานี มหาเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยสุดของอินเดีย และเป็นผู้สนับสนุนทางการเมืองของนายโมดี ซึ่งมีแผนการทำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ มีโอกาสในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น