Telecommunications

‘3 ค่ายมือถือ’ ยุติบริการ 2G ต.ค.ปีหน้า

“3 ค่ายมือถือ” ทำหนังสือแจ้ง กสทช. ขอยุติบริการ 2G  วันที่ 31 ต.ค. 62  เผยสถิตินำเข้ามือถือ 2G ปี 58-60 ลดลง  เร่งประชาสัมพันธ์แผนคุ้มครองผู้ใช้บริการ 2G เปลี่ยนเป็น 3G 

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายใหญ่ของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS) บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TRUE) และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTAC) ได้ทำหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ขอให้สำนักงานนำเสนอบอร์ด กสทช. เพื่อยุติการให้บริการ 2G ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ 728x485 728x485

โดยโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายพร้อมที่จะทำการประชาสัมพันธ์แผนการยุติการให้บริการ 2G ที่จะมีการคุ้มครองประชาชนผู้ใช้บริการ 2G ให้ได้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องในระบบ 3G

สำนักงาน กสทช. จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อรีบทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบการยุติการให้บริการ 2G ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนการเปิดให้บริการ 5G ในประเทศไทย

นายฐากร กล่าวว่า สิ่งสำคัญ 2 เรื่องที่ประชาชนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ 2G คือ  1.อัตราค่าบริการ ที่ประชาชนเข้าใจว่าค่าโทรในระบบ 2G ถูกกว่าค่าโทรด้วยเสียงในระบบ 3G และ 4G  ซึ่งเรื่องจริงค่าโทรด้วยเสียงในระบบ 3G และ 4G เฉลี่ยอยู่ที่ 60 สตางค์ต่อนาที ถูกกว่าค่าโทรในระบบ 2G ซึ่งมีค่าโทรเฉลี่ยอยู่ที่ 97 สตางค์ต่อนาที

เสาสัญญาณมือถือ

เรื่องที่ 2.ระบบความปลอดภัยที่ประชาชนเข้าใจผิดว่าถ้าโทรศัพท์หากันด้วยเสียงในระบบ 2G คนจะดักฟังไม่ได้ ข้อเท็จจริง คือ ตามกฎหมายไม่ว่าประชาชนจะโทรศัพท์หากันด้วยระบบไหนก็ตาม ประชาชนจะได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถดักฟังโทรศัพท์ได้ ยกเว้น กรณีการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน เป็นต้น ซึ่งจะต้องขออนุมัติต่อศาลที่จะออกหมายดังกล่าว เพื่อทางสำนักงาน กสทช. จะได้แจ้งผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย

สำนักงาน กสทช. จึงขอแจ้งผู้ประกอบการนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ว่าจะมีการยุติการให้บริการ 2G ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตสามารถนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ในระบบ 2G ได้ แต่อาจได้รับผลกระทบด้านการตลาดเมื่อมีการยุติการให้บริการในระบบ 2G คือนำเข้ามาแล้วอาจจะขายไม่ได้ ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการนำเข้าอย่างเป็นทางการต่อไป

สถิติการนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 2G พบว่า ปี 2557 มีการนำเข้าจำนวน 117,486 เครื่อง ปี 2558 จำนวน 11,300 เครื่อง ปี 2559 จำนวน 10,670 เครื่อง ปี 2560 จำนวน 10,930 เครื่อง และปี 2561 จำนวน 14,052 เครื่อง จะเห็นว่าตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา การนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 2G ลดจากปี 2557 อย่างชัดเจน

“ประเทศไทยได้มีการตั้งเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการ 5G ในปลายปี 2563 ดังนั้นเพื่อให้เปิดการให้บริการ 5G จำเป็นต้องยุติการให้บริการ 2G เพื่อนำคลื่นความถี่ในส่วนนี้ไปใช้ในการให้บริการ 5G ซึ่งจะเกิดประโยชน์ และความคุ้มค่ามากกว่า เมื่อยุติการให้บริการ 2G ประชาชนยังใช้บริการโทรศัพท์ได้เหมือนเดิมด้วยระบบ 3G และ 4G และมี 5G ให้บริการในประเทศไทย การดำเนินการดังกล่าวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง” นายฐากร กล่าว

Avatar photo