Lifestyle

วัยทำงานเสี่ยง ‘ผื่นผิวหนังอักเสบ’ ที่มือ

สถาบันโรคผิวหนัง เผยผู้ที่มีอาชีพที่มือต้องสัมผัสกับน้ำเป็นประจำ-เป็นผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ในวัยเด็ก เสี่ยงโรคผิวหนังที่มือ เหตุจากสารเคมีและสารที่ทำให้ระคายเคือง แนะวิธีดูแลป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคหรือกลับมาเป็นซ้ำ

naron
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคผื่นผิวหนังอักเสบที่มือ เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะวัยทำงาน เนื่องจากมือเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสสารระคายเคืองได้บ่อย เช่น สบู่ ผงซักฟอก แชมพู หรือแม้แต่น้ำเปล่า ซึ่งจะทำให้หน้าที่การทำงานของเกราะป้องกันผิวลดลง ทำให้เกิดเป็นผื่น

ทั้งนี้ระยะเวลาของการเกิดโรคอาจเป็นไม่นาน แต่ในบางรายอาจเป็นรุนแรง และนานหลายปี ทำให้มีผลต่อการทำงานและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติเป็นผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ในวัยเด็ก ผู้ที่ทำงานโดยที่มือต้องสัมผัสน้ำบ่อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน เช่น แม่บ้าน คนเลี้ยงเด็ก คนทำอาหาร ช่างเสริมสวย ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ศัลยแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล คนงานก่อสร้าง เป็นต้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากสารเคมีหรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้ผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง หรือหากผิวหนังสัมผัสสารเคมี เช่น น้ำหอม ยาง หรือหนัง ทำให้เกิดการแพ้ จะเป็นลักษณะของผื่นแพ้สัมผัส บางรายอาจเป็นทั้งจากการระคายเคืองและการแพ้ร่วมกัน

169623
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เป็นโรค ผื่นผิวหนังอักเสบที่มือจะมีผื่นแดง คัน แห้ง ขุย บางครั้งมีร่องแตก เจ็บ หรือมีตุ่มน้ำเล็ก ๆ ที่ฝ่ามือ หรือด้านข้างนิ้วมือ บางรายอาจมีผื่นเฉพาะที่ เช่น บริเวณง่ามมือ กลางฝ่ามือ ปลายนิ้วมือ หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จะทำให้มี ตุ่มหนอง ผื่นบวมแดงเจ็บ มีน้ำเหลือง ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่เป็นการควบคุมอาการ ไม่ได้ทำให้ผื่นหายขาด

แต่หากผู้ป่วยทราบสาเหตุของการแพ้ หลีกเลี่ยงสารเคมีที่แพ้ได้อย่างถูกต้อง และเริ่มรักษา ตั้งแต่ระยะแรกจะทำให้โรคไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก สำหรับการดูแลประกอบด้วยการทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้น ทำให้สารเคมีที่แพ้ หรือระคายเคืองเข้าสู่ผิวหนังได้ยากขึ้น ควรทาบ่อยเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะเมื่อพบว่ามือเริ่มแห้งไม่ชุ่มชื้น และทุกครั้งหลังล้างมือ

โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สี ไม่มีส่วนผสม ที่ทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ ควรเลือกที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสบู่ที่จะทำให้มือแห้งระคายเคืองมากขึ้น อาจเลือกชนิดที่ผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

และไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด มาใช้ทำความสะอาดมือ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือไม่ควรล้างมือบ่อยเกินไป โดยไม่ควรเกิน 2-3 ครั้งต่อวัน ไม่ล้างมือด้วยน้ำอุ่นมาก ๆ เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น หลัง ล้างมือซับมือให้แห้ง และทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นทุกครั้ง

นอกจากนี้ควรสวมถุงมือเมื่อต้องทำงานสัมผัสกับน้ำ หรือสารระคายเคืองโดยเลือกใช้ถุงมือที่เหมาะสม ซึ่งไม่ควรใส่ถุงมือนานกว่า 20 นาที เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น หรือระคายเคืองได้ หรือหากต้องใส่เป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนถุงมือ เมื่อรู้สึกว่าด้านในถุงมือเปียกชื้น และอาจใส่ถุงมือผ้าขาวไว้ข้างในถุงมืออีก 1 ชั้น เพื่อดูดซับเหงื่อ นอกจากนี้ควรทายาสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง และไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ และรับการรักษาต่อไป

Avatar photo