ได้กระแสตอบรับกันเป็นอย่างดี สำหรับโครงการ “บ้านล้านหลัง” หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ ที่รัฐบาลอนุมัติกรอบวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสม รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ดำเนินการโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ได้เปิดให้มีการจองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง พบว่ามียอดวงเงินจองสูงสุดเกือบ 130,000 ล้านบาท
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มียอดจองสิทธิสูงสุด 29,000 ล้านบาท
- ภาคใต้ มียอดจอง 27,000 ล้านบาท
- ภาคกลาง ยอดจอง 19,000 ล้านบาท
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล มียอดจอง 18,000 ล้านบาท
- ภาคตะวันออก 16,000 ล้านบาท
- ภาคเหนือ ยอดจอง 13,000 ล้านบาท
- ภาคตะวันตกยอดจอง 5,000 ล้านบาท
กลุ่มสื่อสารเชิงกลยุทธ์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี วิเคราะห์ “5 เหตุผล” ทำไมโครงการบ้านล้านหลังถึงมียอดจองสิทธิทะลุแสนล้าน
1. ความต้องการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อย
เพราะบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของมนุษย์ ทุกคนอยากมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง เพื่อพักอาศัยร่วมกับคนในครอบครัวได้อย่างมีความสุข ซึ่งเงื่อนไขของโครงการนี้ ทำให้ผู้ที่ทำงานประจำหรือประกอบอาชีพอิสระที่ยังเช่าพักอาศัยกับเอกชน สามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้นในราคาที่เหมาะสม
2. โครงการตอบโจทย์คนอยากมีบ้าน
เนื่องจากปัจจุบันผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ที่เช่าบ้านอยู่ จะเสียค่าเช่าบ้านประมาณเดือนละ 3,000-4,000 บาท หากสามารถจ่ายค่าเช่าได้ทุกเดือน ก็สามารถผ่อนชำระค่าบ้านตัวเองเดือนละ 3,800 บาท ได้เช่นกัน อีกทั้งเป็นการสร้างสินทรัพย์เพื่อความมั่งคั่งของตนเองได้ด้วย
3. รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน
โดยมีวงเงินโครงการถึง 50,000 ล้านบาท ให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี โดยอายุผู้กู้ เมื่อรวมกับระยะเวลาการกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
4. ราคาบ้านไม่สูงเกินไป
ราคาซื้อข่ายต่อหน่วยไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นสิ่งดึงดูดใจผู้มีรายได้น้อย ทำให้ไม่เป็นภาระในการผ่อนส่งมากจนเกินไป นอกจากนี้การเดินทางในปัจจุบันสะดวกรวดเร็วมากขึ้น การเลือกซื้อบ้านในเมืองราคาถูกลงจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตัวเอง การซื้อบ้านจัดสรร บนที่ดินของรัฐ เอกชน การเคหะ บ้านมือสอง หรือแม้แต่ทรัพย์สินรอการขาย ของสถาบันการเงินและกรมบังคับคดี ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ก็เป็นเงื่อนไขดี ๆ ที่คนสนใจ
5. อัตราดอกเบี้ยต่ำ มีสิทธิพิเศษค่าธรรมเนียม
สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 25,000 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-5 คิดคงที่ 3% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 5 ปีแรก เริ่มต้นเดือนละ 3,800 บาท หลังจากนั้นให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง อีกด้วย
แต่หากรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ 3% ต่อปี เงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 3 ปีแรก เริ่มต้น 3,800 บาท หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด
เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจโครงการนี้เป็นจำนวนมาก ทาง ธอส. เตรียมพิจารณาขอขยายวงเงินโครงการบ้านล้านหลังให้กับผู้ที่จองสิทธิเกินวงเงิน 50,000 ล้านบาท ในระยะที่ 2 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาวงเงินใหม่อีกครั้ง รวมถึงการขยายมาตรการอื่น ๆ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น รวมถึงการสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุ
นอกจากนี้รัฐบาลยังส่งเสริมให้มีการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดทำโครงการนำร่องกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี สุราษฎร์ธานี และปทุมธานี เพื่อพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองในแต่ละพื้นที่ คาดว่าจะมีภาคเอกชนสนใจเข้าร่วมมากขึ้น เพราะประชาชนยังมีความต้องการบ้านอยู่อีกมาก
