Digital Economy

ทรานสฟอร์มเมชั่นสำเร็จ? รายได้ดิจิทัลไนกี้โต 30%

จากปี 2561 ที่กำลังจะย่างเข้าปี 2562 ในอีกไม่ช้านี้ เชื่อว่ายังมีบางแบรนด์ที่กังขาถึงความสามารถของดิจิทัล แต่ไม่ใช่สำหรับไนกี้ ที่เหล่าผู้บริหาร C-Level ต่างตบเท้าออกมาบอกอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ดิจิทัล” ต่างหากคืออนาคตของบริษัท

d36630ce6e7a78327e011637c0586202b708ab4b
ภาพจากเอเอฟพี

โดยรายได้สุทธิของไนกี้ในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2562 (สิ้นสุดลงเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2561) เพิ่มขึ้น 10% เป็น 9.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิของไนกี้ เพิ่มขึ้นเป็น 847 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้บริหารไนกี้มองว่า เป็นผลมาจากการทำ Digital Transformation ของบริษัทนั่นเอง

ทั้งนี้ ก็ต้องบอกว่าผู้บริหารกล่าวไม่ผิด เพราะรายได้จากดิจิทัลของไนกี้เติบโตขึ้นกว่า 30% ในอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ส่วนในจีนเติบโตขึ้นกว่า 40% และที่น่าประหลาดใจก็คือ เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกานั้น โตขึ้นกว่า 75%

ดูจากตัวเลขกันแล้ว ลองมาฟัง มาร์ค ปาร์คเกอร์ ซีอีโอของไนกี้กันบ้าง ปาร์คเกอร์เผยว่า จากสถานการณ์ที่ความคาดหวังของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไนกี้มองว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจชนะตลาดนี้ได้ก็คือการลงทุนในดิจิทัล เนื่องจากดิจิทัลทำให้ไนกี้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ทำให้บริษัทเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้น และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้กับธุรกิจได้อีกหลายอย่าง เช่น การลงทุนสร้างซัพพลายเชนที่สามารถออกแบบสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคล และสามารถทำได้ทั่วโลก อีกทั้งการปรับสู่ดิจิทัลยังทำให้ไนกี้มีพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ เข้ามาพูดคุยด้วยอีกมากมาย

โดยหนึ่งในช่องทางที่ไนกี้โฟกัสเป็นพิเศษก็คืออุปกรณ์โมบายล์ ซึ่งปัจจุบันทำรายได้ให้กับไนกี้มากกว่า 50% ในรายได้จากหมวดดิจิทัล

nike beijing china afp 21122018
ภาพจากเอเอฟพี

ขณะที่ แอนดรูว์ แชมเปียน (Andrew Champion) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO)ของไนกี้กล่าวว่า หากมองในระยะยาว ดิจิทัลคือช่องทางหลักของธุรกิจ ซึ่งวิธีการของไนกี้คือการนำเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ เข้ามาใช้งานในร้านค้าปลีกเพื่อให้นักช้อปได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และดึงผู้บริโภคเหล่านั้นเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัท เห็นได้จากการเปิดตัวร้านค้าระดับแฟลกชิปในนิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้ที่มีการนำดิจิทัลเข้าไปผนวกไว้ในร้านค้าได้อย่างกลมกลืน หรือร้านค้าขนาดย่อมลงมา อย่าง Nike Live ที่เพิ่งเปิดในเมืองเมลโรส ลอสแองเจลลิส ก็ไฮเทคไม่แพ้กัน

โดยร้านแฟลกชิปของไนกี้ที่นิวยอร์กนั้น มีพื้นที่สำหรับสร้างประสบการณ์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้ามากมาย รวมถึงพื้นที่ที่สามารถสั่งตัดรองเท้าผ้าใบได้ตามแบบที่ต้องการขณะที่ Nike Live ที่เมลโรสนั้น เป็นร้านต้นแบบที่โฟกัสไปยังการใช้งานอุปกรณ์โมบายล์โดยเฉพาะ (ไนกี้อยู่ระหว่างการขยายไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นด้วย)

ในวันที่หลาย ๆ ธุรกิจบอกว่า การทำ Digital Transformation ของตัวเองนั้นเพิ่งเริ่มต้น แต่สำหรับไนกี้ การลงทุนอย่างหนักเพื่อสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลของตนเองให้เกิดขึ้นได้ออกดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว และอานิสงค์ของการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลยังอาจทำให้คู่แข่งได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับประสบการณ์ดิจิทัลบนไนกี้มาแล้วนั่นเอง

Source

https://www.mobilemarketer.com/news/nike-execs-see-digital-as-the-majority-of-future-business/544988/

https://www.retaildive.com/news/inside-nikes-house-of-innovation-flagship-on-5th-ave/542349/

https://www.retaildive.com/news/store-concept-of-the-year-nike-live/541703/

 

Avatar photo