Politics

กกต.จี้ ‘พลังประชารัฐ’ แจงที่มาเงินระดมทุนใน 30 วัน

“กกต.” จี้ “พรรคพลังประชารัฐ” ต้องแจ้งที่มาเงินระดมทุนภายใน 30 วัน พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง เผย ‘อันเฟรล-อียู’ ส่งหนังสือขอร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้ง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีหน่วยงานรัฐสนับสนุนการซื้อโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พรรคการเมืองสามารถหารายได้ของพรรค หรือระดมทุนได้ แต่หลังจากการระดมทุนแล้ว พรรคการเมืองจะต้องรายงานต่อนายทะเบียนพรรค และประกาศให้ประชาชนรับทราบภายใน 30 วัน นับจากวันที่จัดงาน

จรุงวิทย์ ภุมมา17121

รวมถึงต้องรายงานต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองด้วยว่าบุคคลใดบ้างบริจาคเกิน 100,000 บาท ซึ่งเหตุผลที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นนี้ เนื่องจากต้องการให้เกิดความโปร่งใสในพรรคการเมือง และให้การดำเนินการหารายได้ของพรรคมีธรรมาภิบาล

ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานรัฐปกติตามหลักการทั่วไปหน่วยงานรัฐจะมีขอบเขตการใช้เงินของรัฐอยู่แล้วว่าอะไรสามารถใช้งบประมาณของหน่วยงานรัฐได้บ้าง ซึ่งเงินจากหน่วยงานของรัฐถือเป็นเงินหลวง

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นต้องรอให้พรรคพลังประชารัฐรายงานมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองถึงที่มาของรายได้ก่อน กกต.จะดำเนินการตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม หากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก็ต้องตรวจสอบโดยดูจากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณา

จรุงวิทย์ ภุมมา17122

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้น.ส.จันดานี วาตาวาละ ผู้อำนวยการเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) มาสอบถามความคืบหน้าการพิจารณาอนุญาตให้องค์กรเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทย หลังจากที่ได้ทำหนังสือถึงสำนักงาน กกต. ก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากขณะนี้วันเลือกตั้งยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถสามารถพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้

“หากวันเลือกตั้งออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอันเฟรล หรือหน่วยงานใด กกต.ก็จะต้องพิจารณา รวมทั้งการเชิญให้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งด้วย” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่รายงานว่า มีอันเฟรลและอียู ที่ทำหนังสือขอเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียด

Avatar photo