Economics

‘THAI’ เร่งขาย-ให้เช่าเครื่องบินมูลค่า6พันล้าน

การบินไทย1 1

 

รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินรอการจำหน่ายหรือให้เช่าทั้งหมด 18 ลำ มูลค่าราว 6 พันล้านบาท โดยมีผู้แสดงความสนใจแล้ว 12 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 4 ลำ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย, เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 จำนวน 2 ลำ ซึ่งผู้สนใจเตรียมเข้ามาตรวจสภาพเครื่อง และเครื่องบินแอร์บัส A340-600 จำนวน 6 ลำ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาราคา ด้านเครื่องบินที่รอการขายอีก 6 ลำ คือ แอร์บัส A300-600R จำนวน 1 ลำ, แอร์บัส A340-500 จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินขนส่งสินค้าแบบโบอิ้ง 747-400 BCF จำนวน 2 ลำ

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2555-2558 การบินไทยมีแผนปลดระวางและประกาศขายเครื่องบินทั้งหมด 38 ลำ โดยจำหน่ายแล้ว 18 ลำ, อยู่ระหว่างรอการส่งมอบแอร์บัส A330-300 จำนวน 2 ลำ และยังเหลืออีก 18 ลำที่รอการขาย ด้านแผนการปลดระวางเครื่องบินในปี 2561 อยู่ระหว่างการปรับปรุงและยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากต้องรอให้แผนจัดหาฝูงบินใหม่จำนวน 19 ลำ ให้ชัดเจน

นอกจากนี้ การบินไทยอยู่ระหว่างติดตามเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-มอสโก ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมีการแข่งขันสูงและอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Cabin Factor) ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่คาดว่าฝ่ายบริหารยังไม่มีนโยบายให้ปิดเส้นทางจนกว่าจะหมดตารางบินฤดูร้อน เนื่องจากประเทศรัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมฟุตบอลโลกในเดือน มิถุนายน-กรกฎาคมนี้ โดยก่อนหน้าการบินไทยได้ประกาศปิดเที่ยวบินประจำเส้นทางกรุงเทพฯ-เตหะราน ประเทศอิหร่าน อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจาก Cabin Factorไม่ถึง 70% ตามเป้าหมาย

สำหรับ ปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งระหว่างเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า การบินไทยมี Cabin Factor อยู่ที่ 81% ลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 แต่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3% เป็น 3.3 ล้านคน, ปริมาณที่นั่งเพิ่มขึ้น 3.6% เป็น 14,516 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร และปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 11,753 ล้านคน-กิโลเมตร

ขณะที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การบินไทยได้ดำเนินการตามแผนปฏิรูปครบ 3 ระยะแล้ว ได้แก่ ระยะที่ 1 ปี 2558-2559 หยุดการขาดทุน, ระยะที่ 2 ปี 2558-2559 สร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน และระยะที่ 3 ปี 2560 เติบโตอย่างมีกำไรในระยะยาว แต่ในปี 2560 การบินไทยยังมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 2,107 ล้านบาทและยังไม่สามารถออกจากแผนฟื้นฟู ซึ่ง ก.คมนาคม อยู่ระหว่างทบทวนแผนฟื้นฟูกิจการการ เพื่อจัดยุทธศาสตร์ดำเนินงานให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมพิจารณาแผนจัดหาฝูงบินใหม่อย่างรอบคอบ เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

“ได้มีการขอให้การบินไทยศึกษาโมเดลธุรกิจของสายการบินต้นทุนต่ำ นำข้อดีมาปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น ลดจำนวนแบบเครื่องบินและเครื่องยนต์ แต่ยืนยันว่าการบินไทยยังคงเป็นสายการบินเต็มรูปแบบและให้บริการระดับพรีเมี่ยมเหมือนเดิม”

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK