CEO INSIGHT

‘เช้นจ์ 2561’ คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ DNA ‘พี่ฉอด’

“สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “พี่ฉอด”  ถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารอุตสาหกรรมสื่อที่เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคสื่อทีวี วิทยุ และเพลง “รุ่งเรือง” มาถึงยุคโซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญ ส่งผลให้วงการสื่อดั้งเดิมเปลี่ยนไป และในฐานะผู้บริหารจำเป็นต้อง “เปลี่ยน” ไปตามภูมิทัศน์สื่อใหม่

สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา

หลังจากการปรับโครงสร้าง ช่องจีเอ็มเอ็ม25 ในช่วงต้นปีนี้  พี่ฉอด สายทิพย์ ได้ออกจากตำแหน่งผู้บริหารช่อง มารับบทบาทใหม่ในฐานะ ซีอีโอ บริษัท เช้นจ์2561 จำกัด (CHANGE 2561) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 50%  และ อเดลฟอล บริษัทในเครือไทยเบฟ  50%  ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

เช้นจ์2561 วางตำแหน่งเป็น  Content  Creator ที่มีมุมมองใหม่นำเสนอคอนเทนท์ที่แตกต่างในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในช่องทาง “ทีวีดิจิทัล, ออนไลน์ และออนกราวด์

การผลิตคอนเทนท์ของ เช้นจ์ 2561 เรียกว่าเป็นสไตล์ หรือ ดีเอ็นเอ ของพี่ฉอด ที่ตั้งใจอยากเปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนเพื่อสังคมที่ดีขึ้น เปลี่ยนเพื่อโลกใบเดิมที่ดีกว่า ภายใต้คอนเซ็ปต์ เปลี่ยนโลกไม่ได้..แต่เปลี่ยนวิธีคิดได้ มาจากประสบการณ์การทำหน้าที่ดีเจและผู้ดำเนินรายการทีวีที่รับฟังเรื่องราวปัญหาชีวิตของผู้คนกลุ่มต่างๆ และเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น

จากจุดเริ่มต้นบริษัทเช้นจ์ ในเดือนพฤษภาคม 2561 ด้วยทีมงาน 5 คน วันนี้เพิ่มเป็น 60 คน  แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มละครและซีรีส์, รายการโทรทัศน์, โชว์บิซ, กิจกรรมออนกราวด์ และออนไลน์ คอนเทนท์

ในปี 2562 โดยในกลุ่มละครและซีรีย์ จะนำเสนอในรูปแบบของละครสะท้อนสังคม ผ่านทาง “ทีวีดิจิทัล” 4 ช่อง ได้แก่ ช่อง GMM25 จำนวน 5 เรื่อง , ช่องONE31 จำนวน 1 เรื่อง , ช่อง PPTV จำนวน 3 เรื่อง และ ช่อง AMARIN TV จำนวน 2 เรื่อง

เช้นจ์ 2561

สำหรับกลุ่มรายการโทรทัศน์ ในปี 2562 ตามแผนที่วางไว้ มีรายการวาไรตี้ ทอล์ก โชว์ ในชื่อ CLUB FRIDAY SHOW เป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตของศิลปินดารา ทั้งเรื่องความรัก การใช้ชีวิต เพื่อเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิตให้กับผู้ชม โดยจะออกอากาศผ่านช่อง GMM25

ในส่วนของกลุ่มโชว์บิซ ได้เปิดตัว SHOWBIZ 2019 กับ 4 คอนเสิร์ตใหญ่ในปี 2562 ได้แก่ สี่แยกปากหวานคอนเสิร์ต ตอน 2562 สี่แยกครองเมือง เดือน มีนาคม, THE REAL NADECH CONCERT (เดอะเรียล ณเดชน์ คอนเสิร์ต) โดย ณเดชน์ คูกิมิยะ เดือนพฤษภาคม,  J ADRENALINE CONCERT(เจ อะดรีนาลีน คอนเสิร์ต) โดย เจ เจตริน วรรธนะสิน เดือน สิงหาคม และ THE EMPIRE OF PONGSAK (ดิเอ็มไพร์ออฟ ปองศักดิ์) โดย ออฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ เดือนตุลาคม

เช้นจ์ 2561

สำหรับกิจกรรมออนกราวด์  เป็นการจัดต่อเนื่องของ “พี่อ้อย พี่ฉอด ออนทัวร์” ที่ได้ดำเนินกิจกรรมมาแล้วในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยเป็นการลงพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรับเปลี่ยมมุมมอง ในเรื่องของความรัก ที่มุ่งเน้นไปยังสถาบันการศึกษา กับนักเรียนนักศึกษา กลุ่มที่มีความเสี่ยงและการตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องของความรัก

สุดท้าย “ออนไลน์ คอนเทนท์”  เช้นจ์ฯ ได้ผลิตคอนเทนท์ เพื่อป้อนให้กับ ออนไลน์ แพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง เฟซบุ๊ก แฟนเพจ, อินสตาแกรม , ทวิตเตอร์, และยูทูบ แชนแนล  สำหรับปี 2562 จะนำเสนอในรูปแบบรายการออนไลน์  10 รายการ ได้แก่ พี่อ้อยพี่ฉอดตัวต่อตัว , KUI STORY (คุยสตอรี่) , เชิญรับยา , DNACE เถอะ WORLD , BOY JEAB THE JOURNEY , CHRISTINA’s DIARY, กวน ซน TEEN , เธอเก่ง , หนุ่มล่าแต้ม , MISSION สตรี และ รู้4รู้8

แผนธุรกิจของเช้นจ์ฯ ในปี 2562 รายได้หลักจะมาจากการรับจ้างผลิตละครและซีรีส์ให้ทีวีดิจิทัลราว 50% ,โชว์บิซ 25% ,กิจกรรมออนกราวด์ 15% และออนไลน์คอนเทนท์ 10%   โดยปี 2562 วางเป้าหมายรายได้ 600 ล้านบาท

เช้นจ์ 2561

แนวทางการผลิตคอนเทนท์ของของเช้นจ์ จะมุ่งเน้นไปที่ออนไลน์ แพลตฟอร์มเป็นสำคัญ เพราะเป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญในยุคนี้  แต่ยังให้น้ำหนักการผลิตคอนเทนท์ป้อนทีวีดิจิทัล ซึ่งยังเป็นสื่อหลักครองเม็ดเงินโฆษณาสูงสุด และเพื่อที่ทำให้คอนเทนท์ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

ในยุคที่สื่อมีหลายหลายแพลตฟอร์ม ทั้งช่องทีวีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก  สื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ทุกสื่อต้องการคอนเทนท์ที่แตกต่างเพื่อเข้าถึงผู้ชม และตอกย้ำว่า Content is King  เช้นจ์ฯ จึงมองเห็นโอกาสในฐานะ “คอนเทนท์ ครีเอเตอร์” อิสระที่สามารถผลิตงานให้กับทีวีดิจิทัล “ทุกช่อง” และดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่  รวมทั้งโอกาสการขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์   

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มองโอกาสการใช้จุดแข็งด้านการผลิตคอนเทนท์  ด้วยการแตกบริษัทใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการหารายได้ในยุคที่สื่อมีหลากหลายแฟลตฟอร์ม โดยไม่จำกัดช่องทางการนำเสนออยู่เฉพาะสื่อของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่อีกต่อไป อีกทั้งธุรกิจผลิตคอนเทนท์สามารถทำกำไรได้สูงระดับ 10-15%

หลังจากนี้  เช้นจ์ 2561 จะมีการผลิตคอนเทนท์ต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขึ้นเป็นบริษัท คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ ในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงแบบครบวงจรอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

Avatar photo