หลังจากมีกระแสข่าวช่วงต้นเดือนนี้ ว่าสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ “ไทยรัฐ” เตรียมปรับลดพนักงานสื่อหนังสือพิมพ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในอุตสาหกรรมสื่อปัจจุบัน
ล่าสุด นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วัชรพล จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้ออกประกาศลงวันที่ 6 ธันวาคม 2561 เรื่องโครงการลาออกด้วยความสมัครใจ โดยได้รับความช่วยเหลือ
โดยเนื้อหาของประกาศระบุว่า ด้วยปัจจุบันสถานการณ์สิ่งพิมพ์ของ บริษัท วัชรพล จำกัด ต้องเผชิญกับความท้าทายต่อสภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมการบริโภคสื่อของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้สภาพทางธุรกิจของบริษัท ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าบริษัทจะได้พยายามประคับประคองธุรกิจสิ่งพิมพ์ในทุกวิถีทางอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม บริษัทมีความจำเป็นต้องลดโครงสร้างและอัตรากำลังคน เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้
บริษัทจึงมีนโยบายให้พนักงานสมัครเข้าโครงการลาออกด้วยความสมัครใจ โดย โดยได้รับความช่วยเหลือ มีรายละเอียดตามประกาศ ดังนี้
วัตถุประสงค์ของโครงการ
- เพื่อให้บริษัทสามารถบริหารอัตรากำลังภายในองค์กรของแต่ละสาย/ฝ่าย อย่างเหมาะสมมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท
- เพื่อปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนบุคลากร และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรโดยรวมในระยะยาว
หลักการของโครงการ
- เป็นความประสงค์และสมัครใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย ระหว่างบริษัทกับพนักงานที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ
- เป็นสิทธิ์ฝ่ายเดียวของบริษัท ในการอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้พนักงานลาออกตามโครงการ โดยเฉพาะตำแหน่งงานหลัก (Key Position) และตำแหน่งงานสำคัญ (Critical Position) ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์และใช้ความรู้และประสบการณ์เฉพาะที่ไม่สามารถหาผู้ปฏิบัติงานแทนได้ และหรืออาจส่งผลเสียต่อธุรกิจของบริษัท
- กรณีที่มีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีค่าใช้จ่ายเกินกว่างบประมาณที่ได้รับอนุมัติ บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาคัดเลือกตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
- บริษัทจะไม่รับพนักงานที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการกลับเข้าทำงานในฐานพนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัท รวมทั้งบริษัทในเครืออีก
คุณสมบัติของพนักงานที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ - พนักงานสังกัดบริษัทวัชรพล จำกัด ทุกระดับ ที่ได้รับการบรรจุเป็นพนังงานประจำ
วิธีการดำเนินการ
- พนักงานที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ให้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มหนังสือและแสดงความประสงค์ ได้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ตั้งแต่วันที่ 17-30 ธันวาคม 2561
- ฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติพนักงาน ที่ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการและจัดทำรายชื่อ เพื่อนำเสนอในการพิจารณาของสายบังคับบัญชา ตามขั้นตอนต่อไป
- ผลการพิจารณาอนุมัติจากประธานกรรมการบริหาร ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด
ผลประโยชน์ตอบแทนตามโครงการ
เงินช่วยเหลือตามอายุงาน โดยให้นับอายุงานตั้งแต่วันที่เข้าทำงานกับบริษัทจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 และเงินช่วยเหลือพิเศษอีก 30 วัน
- อายุงานครบ 120 วันขึ้นไป แต่ไม่ครบ 1 ปี เงินช่วยเหลือเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
- อายุงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี เงินช่วยเหลือเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน
- อายุงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี เงินช่วยเหลือเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
- อายุงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี เงินช่วยเหลือเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน
- อายุงานครบ 10 ปีขึ้นไป เงินช่วยเหลือเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน
พนักงานที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ออกตามโครงการ จะได้รับเงินช่วยเหลือในวันที่ 30-31 มกราคม 2562 และกำหนดให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562
สื่อสิ่งพิมพ์ 10 ปีเม็ดเงินหาย “หมื่นล้าน”
สถานการณ์สื่อสิ่งพิมพ์เผชิญการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาและพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เสพสื่อดั้งเดิมรวมทั้งหนังสือพิมพ์ลดลง จนทำให้เม็ดเงินโฆษณาหดตัวตลอดช่วง 10 ปีนี้
หากพิจารณามูลค่าโฆษณากลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ ที่รายงานโดย นีลเส็น ประเทศไทย และการคาดการณ์ปี 2561-2562 และการคาดการณ์ของ สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย MAAT ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ช่วง 10 ปีนี้ พบว่าปี 2553 โฆษณา “หนังสือพิมพ์” มีเม็ดเงินโฆษณาแตะ 15,000 ล้านบาท เติบโต 6.01% โดยปี 2556 มีมูลค่าสูงสุด 15,258 ล้านบาท เติบโต 0.49%
แต่นับจากปี 2557 ที่สื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลในอุตสาหกรรมโฆษณา จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นระดับ 40 ล้านคน รวมทั้งอุตสาหกรรมสื่อมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ จากการเกิดขึ้นของ “ทีวีดิจิทัล” ช่องใหม่ 24 ช่อง และเหลือ 22 ช่องในปัจจุบัน ส่งผลต่อทั้งพฤติกรรมผู้ชมทีวี ที่กระจายตัวทั้งทีวีดิจิทัลช่องใหม่และสื่อออนไลน์ ทำให้เม็ดเงินโฆษณาสื่อดั้งเดิมชะลอตัวลง
งบโฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์ ตั้งแต่ปี 2557 ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยโฆษณาหนังสือพิมพ์ มูลค่าอยู่ที่ 13,166 ล้านบาท ลดลง 13.7% ปี 2558 มูลค่า 12,332 ล้านบาท ลดลง 6.45% ปี 2559 มูลค่า 9,843 ล้านบาท ลดลง 20.12% และปี 2560 มูลค่า 7,706 ล้านบาท ลดลง 21.82%
สำหรับปี 2561 MAAT คาดการณ์โฆษณาหนังสือพิมพ์อยู่ที่ 6,100 ล้านบาท ลดลง 21% และปี 2562 มูลค่าอยู่ที่ 4,575 ล้านบาท ลดลง 25%
จากสื่อโฆษณาที่ครองอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมโฆษณามากว่า 20 ปี หากเป็นไปตามคาดการณ์ของ MAAT ปี 2562 โฆษณาหนังสือพิมพ์ จะร่วงไปอยู่อันดับ 7 รองจาก ทีวี, อินเทอร์เน็ต, สื่อกลางแจ้ง, สื่อในโรงภาพยนตร์ ,สื่อที่ใช้ในการเดินทาง และสื่อวิทยุ
สถิติมูลค่าโฆษณาหนังสือพิมพ์ที่เคยสูงสุดในปี 2556 ที่ 15,258 ล้านบาท และทิศทางยังอยู่ในช่วง “ขาลง” ในปี 2562 จะเห็นได้ว่าช่วง 10 ปีนี้ เม็ดเงินโฆษณาหายไปกว่า “หมื่นล้านบาท”
ปี 2562 โฆษณาสื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสารยังคงลดลงต่อเนื่องในอัตรา 25-30% ขณะที่สื่อโฆษณาอื่นๆ เริ่มฟื้นตัว
ที่ผ่านมาสื่อสิ่งพิมพ์ ได้มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ด้วยการขยายไปยังช่องทางออนไลน์ แต่เนื่องจากรายได้จากโฆษณาออนไลน์ยังอยู่ในอัตราต่ำ เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ และยังมีต้นทุนสูงจากสื่อดั้งเดิม หลังจากนี้ยังคงเห็นการปรับตัวของสื่อสิ่งพิมพ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสหารายได้และอยู่รอด!!