Digital Economy

เจดี เซ็นทรัล วันนี้กับอีก 5 ปีข้างหน้าที่จะไม่เหมือนเดิม

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานคณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ชี้ “อีคอมเมิร์ซ” ไทยยังต้องเผาเงินเล่นอีกหลายปี แม้จะมีคำสั่งซื้อจากจีนแผ่นดินใหญ่ปีละไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทรออยู่ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ภารกิจหลักของเจดี เซ็นทรัล ในตอนนี้คือสร้าง “ความเชื่อมั่น” ให้เกิดขึ้นในหมู่ผู้บริโภค ว่าสินค้าบนแพลตฟอร์มเป็นของแท้ และมีบริการเบื้องหลังที่เชื่อถือได้ให้มากที่สุด

IMG 20181217 105205

เรียกว่าเป็นการประกาศวิสัยทัศน์ส่งท้ายปี 2561 ที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับเจดี เซ็นทรัล โดยล่าสุดดึง JD.com มาจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาของไทยผ่านการเซ็น MOU 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างเจดี เซ็นทรัล, JD.com และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ (DITP) โดยเน้นไปที่การส่งเสริมด้านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพของเอสเอ็มอีไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มของ JD ได้อย่างสะดวกขึ้น

ฉบับที่สองเป็นการร่วมมือระหว่างเจดี เซ็นทรัล, JD.com และดีป้า มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ ระบบซัพพลายเชน รวมถึงความร่วมมือในเรื่องระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในคลังสินค้า โดยหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการนำร่องเมืองอัจฉริยะด้วย

ฉบับสุดท้ายเป็นความร่วมมือระหว่างเจดี เซ็นทรัล, JD.com และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยให้นักศึกษารุ่นใหม่มีความรู้เรื่องอีคอมเมิร์ซมากขึ้น รวมถึงการสร้างศูนย์การเรียนรู้และศูนย์การดำเนินงานเพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรได้สัมผัสเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงเอไอด้วย ซึ่งเป้าหมายของโครงการคือการทำให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สามารถทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้หลังจากจบการศึกษา ผ่านหลักสูตร WiL (Work – Integrated Learning) ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน

IMG 20181217 103857

เปิดแฟลกชิปสโตร์บน JD.com

ทั้งนี้ นายญนน์ เผยด้วยว่า หลังจากบริษัทได้มีการเปิดแฟลกชิปสโตร์บน JD.com ในชื่อ JD Thailand Official Flagship Store (thailand.jd.hk) ไปแล้วเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา ผลตอบรับจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นไปด้วยดี โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ หมอนยางพาราและทุเรียนอบแห้ง นอกจากนั้นก็ยังมีสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน ร่วมด้วย

แต่นายญนน์ก็ชี้ด้วยว่า การจะก้าวต่อไปข้างหน้านั้น ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจเทคโนโลยี และสามารถใช้เทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ของ JD.com ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเจดี เซ็นทรัลตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าบริษัทจะต้องมีผู้ค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ราย และภายใน 5 ปีข้างหน้าจะสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 100,000 ล้านบาท

ในแง่ของการลงทุนนั้น เจดี เซ็นทรัลเผยว่า จะมีการลงทุนเพิ่มในด้าน Last-mile Delivery เพิ่มขึ้น โดยมีงบประมาณราว 2,000 – 3,000 ล้านบาทในระยะ 2 – 3 ปีข้างหน้า นอกจากนั้นก็คือการสร้าง Warehouse พื้นที่ 20,000 ตารางเมตรให้ครบ 5 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งภายใน Warehouse เหล่านั้นก็คือเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ของ JD.com และนายณนน์บอกด้วยว่า หากสเกลของการซื้อขายอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตขึ้นมากกว่านี้ ก็อาจได้เห็นเทคโนโลยีอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยงานมากขึ้นก็เป็นได้

ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมในการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยประกอบด้วยสินค้ากลุ่ม FMCG, โทรศัพท์มือถือ และสินค้าแฟชั่น ส่วนสินค้าที่ตั้งเป้าว่าจะเป็นสินค้าเป้าหมายในอนาคตก็คือสินค้ากลุ่มของใช้ในบ้าน – ของใช้ในชีวิตประจำวัน และหมวดของสดนั่นเอง

Avatar photo