“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่หวังรัฐบาลใหม่แก้ปัญหา “ข่มขืน-อุบัติเหตุ-ยาเสพติด” ชี้ไม่ห่วงความขัดแย้งทางการเมืองเหตุรัฐบาลปัจจุบันดูแลได้
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ร่วมกับ นายแพทย์ ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน สสส. นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เกาะติดความปลอดภัยของประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,094 ตัวอย่าง ช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมาพบว่า
หากไม่นับรวมปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเข้ามาจัดการ ผลสำรวจชี้ชัดว่า ความรุนแรงทางเพศ ข่มขืน กับ อุบัติเหตุจราจร และการตายบนถนน และ ยาเสพติด กลายเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเข้ามาจัดการ 55.7% 55.5% และ 54.2% ตามลำดับ รองลงมาคือ การศึกษา 51.3% อาชญากรรมทั่วไป 47.3%
ทั้งนี้ที่น่าพิจารณาคือ ความขัดแย้งทางการเมือง 39.4% ไม่ได้อยู่ในอันดับต้น ๆ เพราะความขัดแย้งทางการเมืองได้รับการแก้ไขคลี่คลายลงโดยรัฐบาลชุดปัจจุบันแตกต่างไปจากช่วงขัดแย้งรุนแรงบานปลายในช่วงปี พ.ศ. 2556 – 2557 อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือ 73.9% ระบุมีคนในครอบครัว คนใกล้ชิดเคยประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บ เสียชีวิต และค่าเฉลี่ยความปลอดภัยทางถนนที่ประชาชนให้มาเมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนนได้เกินครึ่งเพียงเล็กน้อยคือ 5.29 คะแนนเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือ 97.0% อยากเห็นรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญและจริงจังความปลอดภัยทางถนนค่อนข้างมากถึงมากที่สุด เพียง 3.0% เท่านั้นรู้สึก เฉย ๆ และประเด็นในกรอบนโยบายพรรคการเมืองที่กำลังแข่งขันกันในขณะนี้ คือ ส่วนใหญ่หรือ 68.6% ระบุ กรณีมีอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต ต้องมีการจัดการอย่างเด็ดขาดกับพฤติกรรมเสี่ยงที่อันตรายกับสังคม ได้แก่ ย้อนศร ฝ่าไฟแดง ชนแล้วหนี รองลงมาคือ 63.3% ระบุ สิทธิสำหรับคนเดินถนน ต้องมีจัดการทางเดินเท้า ฟุตบาธ ทางม้าลายที่ปลอดภัย 62.5% ระบุ มีรถสาธารณะที่สะดวก ทั่วถึงและปลอดภัย และถนนต้องปลอดภัยมีระบบตรวจสอบความปลอดภัยทางถนนที่รัดกุม มีการแก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย โค้งอันตราย โค้งร้อยศพแยกวัดใจ จะต้องแก้ไขและหมดไป และ 48.4% ยกเลิกเงินสินบนนำจับ จากเงินค่าปรับ โดยนำเงินค่าปรับมาเป็นกองทุนเพื่อใช้สำหรับการจัดหาอุปกรณ์ในการดำเนินงานและหนุนให้มีการตั้ง ศาลจราจร