Economics

ชูโมเดลจีน พัฒนา ‘โชห่วย’ 3.7 แสนรายปรับตัวยุค 4.0

“บิ๊กตู่”หนุนโชห่วยไทย 3.7 แสนร้านค้าก้าวสู่ยุค 4.0 ชูโมเดล “โย๋ เล่อ” ของจีน พัฒนาร้านค้า  “ไปรษณีย์ไทย” หนุนช่องทางรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่าการเติบโตของเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การขยายตัวและการพัฒนาของธุรกิจการค้าต่าง ๆ ทำให้เกิดร้านค้าสมัยใหม่และห้างร้านขนาดใหญ่ขึ้นมากมาย ส่งผลต่อการค้าขายของร้านค้าเล็ก ๆ หรือโชห่วย ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของชุมชน

11395 20171204020159
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ปัจจุบันมีร้านค้าโชห่วย ประมาณ 370,000 ร้านค้า หลายร้านต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำมาค้าขาย ทั้งการเพิ่มขึ้นของร้านค้าสมัยใหม่ ต้นทุนที่สูงขึ้น ความสามารถทางการแข่งขันน้อยกว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ดึงดูดลูกค้า และมีสินค้าที่ครบ

ดังนั้นภาครัฐจึงได้หาแนวทางในการช่วยเหลือสนับสนุน ดังนี้ 1.โครงการปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 2. การนำโมเดล “โย๋ เล่อ” ของจีนมาใช้ในการพัฒนาร้านค้า โดยเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับร้านค้าเล็ก ๆ ในชนบท และ 3. โครงการโชห่วยออนไลน์ เป็นแนวคิดในการพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ระหว่างธุรกิจด้วยกันเองผ่านแอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ เป็นแพลตฟอร์มในการสั่งซื้อสินค้า จากร้านโชห่วยไปยังผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ทั้งนี้ ภาครัฐพร้อมเข้าไปสนับสนุนในเรื่องการประสานงาน การรวมกลุ่ม การให้ความรู้ และการนำเทคโนโลยีมาใช้

การดำเนินการนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วยบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และภาคเอกชนผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน

ไปรษณีย์ไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไปรษณีย์ไทย

โดยในการดำเนินงาน ไปรษณีย์ไทย จะพัฒนาช่องทางในการรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และการบริหารสต็อก สินค้า และคำสั่งซื้อสินค้า รวมถึงการบริหารจัดการด้านการขนส่ง โดยกระทรวงพาณิชย์จะเจรจากับผู้ผลิตสินค้าในเรื่องราคา และคัดเลือกร้านค้าโชห่วยที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ รวมถึงการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนเพื่อกระจายสินค้าผ่านร้านโชห่วยในพื้นที่ต่าง ๆ อีกด้วย โดยจะเริ่มนำร่องใน 3 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ในเดือนมกราคม 2562

“ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไปด้วยกัน ช่วยกันผลักดันไปพร้อม ๆ กัน พัฒนาประเทศเพื่อมุ่งไปสู่ Thailand 4.0”

Avatar photo