การพัฒนาในยุคดิจิทัล เป็นปัจจัยสำคัญผลักดันให้ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสื่อต้อง “ปรับตัว” หรือไม่ก็ “ปิดตัว” เมื่อ Disruptive Technology หรือเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทำให้ภูมิทัศน์ของสื่อเปลี่ยนไปจนไม่มีวันเหมือนเดิมและทำให้ธุรกิจสื่อต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เช่นเดียวกับ บมจ. อสมท องค์กรสื่อขนาดใหญ่ หรือ Content Developer ที่ดำเนินธุรกิจสื่อมากว่า 60 ปี เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมมุ่งสู่การสร้าง “องค์กรนวัตกรรม” (Innovative Organization) ผ่านโครงการ “MCOT INNO 2018”
เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สื่อ”เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก Disruptive Technology เป็นลำดับต้นๆ และรุนแรงที่สุด ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ เพลง และภาพยนตร์ ต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่ อย่าง เฟซบุ๊ค , เน็ตฟลิกซ์ , ไลน์ทีวี ความอยู่รอดของธุรกิจสื่อวันนี้ จึงขึ้นอยู่กับ “คอนเทนท์” เป็นสำคัญ
ผู้ผลิตคอนเทนท์ และสื่อจึงต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง “หากไม่เปลี่ยน ก็ไม่รอด” แต่จะปรับอย่างไร เปลี่ยนอย่างไร จึงจะรอด เป็นสิ่งที่ธุรกิจสื่อกำลังพยายามแสวงหาแนวทาง (solution) ใหม่ๆ หาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม ที่ทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าหลังจากธุรกิจเดิมไม่อยู่ในช่วงที่จะเติบโตได้อีกมากนัก
สถานการณ์ขณะนี้ อสมท จึงไม่ต่างจากองค์กรสื่อหลักอื่นๆ ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี การเติบโตของสื่อออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจทีวีดิจิทัล การรับมือกับความท้าทายในยุค “ปลาเร็วกินปลาช้า” และ “ใครๆ ก็เป็นสื่อได้” จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ชู“นวัตกรรม”ทางรอดธุรกิจ
เขมทัตต์ มองว่าหากธุรกิจสื่อมีนวัตกรรมใหม่ ๆ จะเป็นตัวเชื่อมโยงและยกระดับนวัตกรรมของประเทศ ตามที่รัฐบาลได้กำหนด “ประเทศไทย 4.0” เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทิศทางการขับเคลื่อนของประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ปัจจัยสำคัญต่อการบรรลุความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว คือ การพัฒนาศักยภาพคนไทยให้เป็น “คนไทย 4.0” ที่สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี มาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้”
เดินเกมรุก “มุ่งสร้างองค์กรนวัตกรรม”
อสมท เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการด้านนวัตกรรมภายในองค์กร เพื่อสร้าง “องค์กรนวัตกรรม” และการหาแนวทางใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า เติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมและพัฒนาบุคลากรของ อสมท ให้สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความเข้าใจรูปแบบธุรกิจในบริบทใหม่จากการเติบโตของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะต่อไป
การสร้าง “องค์กรนวัตกรรม” จึงเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของ อสมท เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation อสมท ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ
- ระบบการบริหารจัดการองค์กร (Organization) มีโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม
- การพัฒนาทักษะของพนักงาน
- วัฒนธรรมองค์กร MCOT+S ของ อสมท ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลากว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล บมจ.อสมท ในฐานะองค์กรสื่อขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจสื่อดั้งเดิม หรือ offline media มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี และเป็นหนึ่งในองค์กรสื่อหลักของประเทศที่ให้บริการ คอนเทนท์ ทั้งข่าวสาร สาระความรู้ และความบันเทิง ผ่านเครือข่ายสื่อที่ครบวงจรของ อสมท ที่ประกอบไปด้วย
- ทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือ ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 และช่อง MCOT Family หมายเลข 14
- MCOT Radio Network เครือข่ายวิทยุ อสมท ทั้งส่วนกลางที่อยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของแต่ละเซ็กเม้นต์ และวิทยุภูมิภาคทั่วประเทศ รวม 62 สถานี ที่มีฐานผู้ฟังครอบคลุมทุกกลุ่ม
- สำนักข่าวไทย หนึ่งในสำนักข่าวหลักของประเทศ
- 9 Entertain ผู้นำสื่อบันเทิงไทย และสื่อดิจิทัล
อสมท ได้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มของตนเอง ทั้งของ สำนักข่าวไทย ทีวีดิจิทัล MCOT Radio Network, 9 Entertain ที่มีฐานผู้ติดตามกว่า 4 ล้านราย
- แฟนเพจ www.mcot.net 1.34 ล้านราย
- แฟนเพจ สำนักข่าวไทย 1 ล้านราย
- แฟนเพจ NineEntertain 4 ล้านราย
- แฟนเพจ ชัวร์ก่อนแชร์ 6.4 หมื่นราย
ล่าสุด คือ “The M Wink รหัสลับคับจอ” ทางหน้าจอช่อง 9 เอ็มคอทเอชดี และ เอ็มคอท แฟมิลี่ ช่อง 14 และสื่อในเครือของ อสมท ที่ผู้ชมสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรากฏบนหน้าจอ เพื่อรับโปรโมชั่นและส่วนลดจากบริการและร้านค้าต่าง โดยหลังจากนี้จะขยายพันธมิตรเพิ่มเติมในกลุ่มท่องเที่ยว
MCOT Digital Strategy ที่ประกอบด้วย
- Digital Platform การวางโครงสร้างดิจิทัลและแพลตฟอร์มใหม่ๆ อาทิ ความร่วมมือกับ OCTV ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายใหญ่ของจีนเพื่อเปิดบริการโอทีที เสนอคอนเทนท์ผ่านสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียผ่าน www.yakbig.com หรือยักษ์บิ๊กตอทคอม โดยจะเปิดให้บริการในปีนี้
- Content ใช้ฟุตเทจและวิดีโออย่างเต็มศักยภาพ เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่ม
- New Business มุ่งสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผ่านช่องทางทีวี เช่นช่องเอ็มคอท แฟมิลี่ช่อง 14 ที่เปิดพื้นที่ทำงานงานกับเอสเอ็มอีและธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เพื่อหารายได้จากส่วนแบ่งสินค้า เพราะไม่สามารถพึงพาเรตติ้งได้ และขยายบริการโอทีที
- Partner หาพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น สตาร์อัพ
- Personal สรรหาบุคลากรรุ่นใหม่ หุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน เพื่อนำไปสู่องค์กรนวัตกรรม
MCOT INNO 2018 ต่อยอดนวัตกรรมสื่อเชิงพาณิชย์
เขมทัตต์ กล่าวว่า “The rules of the game are changing” แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี อาจทำให้บางธุรกิจล้มหายตายจากไป หรือตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ ซึ่งอสมท ในบทบาทของการเป็น “หุ้นส่วนสังคมไทย” พร้อมสนับสนุนผลงานนวัตกรรมสื่อที่สามารถพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ เพื่อแสวงหา “หุ้นส่วน” ที่จะมาสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ในรูปแบบ O-to-O หรือ Online-to-Offline Strategy
อสมท ได้จัดโครงการ CSR ขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด “U ME IDEA” โดยปีนี้เป็นการจัดทำโครงการ “MCOT INNO 2018” ชิงเงินรางวัลกว่า 200,000 บาท เพื่อส่งเสิรมการพัฒนาด้านนวัตกรรมสื่อขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้ นักศึกษา นักพัฒนาอิสระ และบุคคลในแวดวงธุรกิจสตาร์ทอัพ และผู้ที่สนใจได้มีโอกาสนำเสนอไอเดียผลงานการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อ (Media Innovation) ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อที่ต่อยอดกับธุรกิจของ อสมท หรือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่ออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่า และร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการ MCOT INNO 2018 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมสื่อของประเทศ
เปิดรับผู้สมัคร ทั้งประเภทบุคคลและทีม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม- 30 มิถุนายน 2561 ทาง www.umeidea.net และเปิด Pitching Challenge จำนวน 2 ครั้ง พร้อมกับการพัฒนา Prototype สำหรับรางวัล ได้แก่ รางวัล รางวัล Best of the Best จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 1 แสนบาท, รางวัล Best in Interactive Media 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 3 หมื่นบาท, รางวัล Best in Media Business Model เงินรางวัลมูลค่า 3 หมื่นบาท, รางวัล Best for TV and Radio Business จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 3 หมื่นบาท ประกาศผลในเดือนตุลาคมนี้
