Digital Economy

‘แอปเปิล-เมิ่ง วันโจว’ ตัวประกันกิตติมศักดิ์ของสองยักษ์ใหญ่ ‘จีน-สหรัฐ’

การที่ศาลจีนมีคำตัดสินให้ควอลคอมม์ (Qualcomm) ชนะคดีแอปเปิล ในประเด็นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ย่อขนาดภาพและการใช้แอพกับหน้าจอทัชสกรีน นำไปสู่การห้ามนำเข้าและจำหน่ายไอโฟนหลายรุ่นในจีนแผ่นดินใหญ่อาจเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สาดเข้ากระทบกับแอปเปิล และสหรัฐอเมริกาในวันนี้

โดยสิ่งที่ควอลคอมม์ฟ้องร้องนั้นรายงานจากสื่อตะวันตกชี้ว่า ได้ถูกยื่นฟ้องต่อศาลมาเป็นเวลานานแล้ว และเพิ่งมีการตัดสินออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เองว่าแอปเปิลละเมิดลิขสิทธิ์ของควอลคอมม์จริง และให้ควอลคอมม์ชนะคดีไป

Untitled 5
ไอโฟน 6 และ 6 Plus ภาพจากเอเอฟพี

โดยไอโฟนรุ่นที่ถูกห้ามจำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่ได้แก่ ไอโฟน 6S, ไอโฟน 6S Plus, ไอโฟน 7, ไอโฟน 7 Plus, ไอโฟน 8, ไอโฟน 8 Plus และไอโฟน X

อย่างไรก็ดี ลิขสิทธิ์ที่ควอลคอมม์อ้างนั้นไม่ได้ถูกรวมในระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดที่ติดตั้งในไอโฟนรุ่นใหม่ ดังนั้นไอโฟนรุ่น XS, XS Max และ XR จึงยังได้รับอนุญาตให้จำหน่ายได้อยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไอโฟนทั้งสามรุ่นที่กล่าวมานั้น เป็นรุ่นที่มียอดจำหน่ายไม่สูงมากนักในจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากมีราคาที่แพงมากนั่นเอง

โดยการฟ้องร้องแต่แรกนั้น ควอลคอมม์มีแผนจะแบนไอโฟนที่ผลิตในจีนไม่ให้วางจำหน่ายได้ด้วย

แต่ความยากลำบากของแอปเปิลในจีนแผ่นดินใหญ่ยังไม่จบแต่เพียงแค่นี้ เพราะนับตั้งแต่การจับกุมตัว เมิ่ง วันโจว ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการเงินของหัวเว่ยโดยตำรวจแคนาดา ที่ได้รับการประสานจากสหรัฐอเมริกาไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนั้น ก็มีบริษัทจีนหลายแห่งประกาศนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงของตนเองหันมาใช้แต่ผลิตภัณฑ์จากหัวเว่ยเท่านั้น และในบางบริษัท หากพบว่าผู้บริหารหรือพนักงานใช้ไอโฟน ก็จะมีการลงโทษด้วย

5e25e26c219989accadf6715ced0cc6f3198ad5a

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Jiangxi Ruike Refrigeration Technology ในมณฑลเจียงซี ที่ประกาศว่า พนักงานคนใดที่เปลี่ยนจากไอโฟนมาใช้หัวเว่ย บริษัทจะสนับสนุนเงินให้อีกราว 2,000 หยวน

โดยบันทึกข้อความของบริษัทที่ส่งให้กับพนักงานทุกคนมีใจความด้วยว่า การจับกุมตัวเมิ่ง วันโจว โดยทางการแคนาดา เป็นสิ่งที่กระทบความรู้สึกของคนจีนอย่างมาก และเราขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนสินค้าจากหัวเว่ยเป็นการตอบโต้

บริษัทด้านการวิจัย Chengdu RYD Information Technology ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ส่งบันทึกข้อความถึงพนักงานว่า ขอให้บริษัทซื้อแต่ผลิตภัณฑ์จากหัวเว่ย และใช้ซอฟต์แวร์ของหัวเว่ย โดยบริษัทจะสนับสนุนเงินเป็นจำนวน 15% ให้กับพนักงานคนใดก็ตามที่ซื้อสินค้าหัวเว่ยมาใช้ส่วนตัว

หรืออีกบริษัทอย่าง Shaanxi Li’An Development Group ก็มีการส่งบันทึกข้อความถึงพนักงานเช่นกันว่า การอัปเกรดอุปกรณ์ดาต้าเซนเตอร์ต่อไปนี้ขอให้ใช้แต่สินค้าหัวเว่ยเท่านั้น และพนักงานทุกคนต้องใช้แต่ซอฟต์แวร์หัวเว่ยด้วย โดยใครที่ซื้อสินค้าหัวเว่ยจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัท 20% ของราคาสินค้า

นอกจากนั้นก็มีบางบริษัท เช่น Menpad ที่ออกจดหมายว่า หากพนักงานคนใดซื้อไอโฟนจะถูกลงโทษด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรากำลังอยู่ในยุคที่จะได้เห็นการใช้อำนาจเข้าห้ำหั่นกันของสองประเทศยักษ์ใหญ่อย่างแท้จริง แถมฝ่ายที่หาเรื่องก่อน อาจเป็นสหรัฐอเมริกาเสียด้วย เพราะที่ผ่านมา สิ่งที่ทั่วโลกต่างส่ายหน้าหนีไม่พ้นนโยบายทางการค้าที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนเป็นใหญ่ของสหรัฐอเมริกา แต่การมั่นใจถึงขนาดที่ว่า กล้าเอ่ยปากให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาจับกุมตัวชนชั้นนำของจีน อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ยักษ์อย่างจีนต้องตอบโต้อย่างจริงจังแล้วก็เป็นได้ ซึ่งจีนในวันนี้ มีพร้อมทั้งเทคโนโลยี และกำลังคนที่จะสนับสนุนประเทศของตนเองเสียด้วย

Avatar photo