“ธีรยุทธ บุญมี” ลั่น “บิ๊กตู่” ได้นั่งเก้าอี้ “นายกฯ” อีกแน่!! แต่ความชอบธรรมต่ำ หยันพฤติกรรมเลือกตั้งปี 62 ก๊อปปี้ระบอบ “ทักษิณ” เป๊ะ
นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการสาธารณะ กล่าวปาฐกถา 45 ปี 14 ตุลา ครั้งที่ 4 “มองปัญหาประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ปัญหาที่ใหญ่กว่าวิกฤตการเมือง” ว่า พล.อ.ประยุทธ์คงจัดตั้งรัฐบาลหน้าขึ้นได้ แต่ความชอบธรรมจะต่ำเพราะรูปแบบการประสานประโยชน์ระหว่างพลังทหาร ข้าราชการ กลุ่มอนุรักษ์ และกลุ่มทุนใหญ่ ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ คสช. ทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ เช่น ปปช. กกต. ปิดกั้นการตรวจสอบ พฤติกรรมเลือกตั้งก็ไม่ต่างไปจากระบอบทักษิณในอดีต คือมีการเอารัดเอาเปรียบก่อนเลือกตั้ง
ทั้งนี้ การดิสเครดิตนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามโดยอำนาจรัฐประหารที่ตนมี จับกุม ดำเนินคดี หรือเรียกมาอบรม ไปจนถึงการแจกเงินคนจน คนแก่ ข้าราชการ ชาวไร่ ชาวสวน บัตรเครดิตคนจน แจกซิมฟรี อินเทอร์เน็ตฟรี ลดภาษี ช็อปช่วยชาติ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี และรูปแบบโดยรวมการเลือกตั้งปี 2562 ก็คือการประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเป็นรัฐบาล คล้ายการเลือกตั้งปี 2542 ซึ่งพรรคทักษิณได้พัฒนาจากการซื้อเสียงธรรมดามาเป็นการประมูลสัมปทานเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
โดยใช้ประชานิยมประมูลเสียงจากชาวบ้านอย่างได้ผล ได้รับการต่ออายุสัมปทานซ้ำหลายรอบ การเลือกตั้งครั้งนี้ดูจากพฤติกรรมของพรรคพลังประชารัฐบ่งว่าจะซ้ำรอยการประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ต้องขอวิงวอนพล.อ.ประยุทธ์ กองทัพ และนายทหารที่มีวิจารณญาณ ช่วยระงับไม่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้อภินิหารกฎหมายหรืออำนาจอื่น ๆ จนถึงขั้นมีเสียงกล่าวหาว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรก หรือ โกงการเลือกตั้ง แบบเดียวกับสมัยเผด็จการทหารปี 2500
“ความชอบธรรมต่ำจะทำให้รัฐบาลประยุทธ์ถ้าชนะการเลือกตั้งจะเจอปัญหารุมเร้าตั้งแต่เริ่มต้น และจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบคิดแบบทหาร หรือยังหลงคิดว่าตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์มีสิทธิชอบธรรมทุกประการ ให้มาเป็นการยอมรับความจริงของโลกยุคปัจจุบันที่มีพลังมีความคิดที่หลากหลาย ต้องมีการปรึกษาหารือ ปรองดอง และแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จึงจะมีโอกาสเป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับบทบาทการบริหารประเทศไปได้” นายธีรยุทธ กล่าว
นายธีรยุทธ กล่าวว่า หวังว่าพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และทุกพรรคจะพัฒนานโยบายให้สร้างสรรค์ที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องด้วย ก็จะทำให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปด้วยดี มีโอกาสร่วมมือกันแก้รัฐธรรมนูญ แก้กฎหมายให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ถ้ารวมกันทำโดยแสดงเหตุผลที่เหนือกว่า อาจจะทำให้สำเร็จโดยไม่ต้องเผชิญหน้าปะทะรุนแรงกับฝ่ายทหารอีก
