COLUMNISTS

‘Virtual Collaboration’ ทักษะที่ 5 แห่งโลกอนาคต

Avatar photo
ที่ปรึกษาบริหารโครงการ บริษัท สลิงชอท คอนซัลทิง จำกัด
1143

ทุกวันนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตเรา หลายครั้งที่เราสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตมากกว่าการคุยกับคนรอบตัว รวมถึงใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ จนสัญญาณอินเทอร์เน็ต และไวไฟ กลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 – 6 ของการดำเนินชีวิต

global 2082635 960 720

วันก่อนดิฉัน VDO Call ผ่านทาง Application สีเขียวให้คุณย่าที่กรุงเทพฯ คุยกับเหลนที่อยู่เชียงใหม่ หลังคุยเสร็จท่านก็หันมาบอกว่า สมัยนี้ดีจัง อยากคุยกับใครแบบเห็นหน้าก็ไม่ต้องไปหากันแล้ว สะดวก รวดเร็วมาก ๆ

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของหลาย ๆ คน แต่ก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปเร็วมาก เราสามารถติดต่อกับคนที่อยู่คนละทวีป เพียงแค่คลิก รวมถึงการประชุม หรือทำงานกับทีมงานที่อยู่คนละประเทศ

การเข้ามาของยุค IoT (Internet of Things) ถือเป็นการทลายกำแพงพรมแดนทั้งด้านโลเคชั่นและเวลาอย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีหลายๆ แขนงทำให้เราสามารถย่อโลกทั้งใบให้มาอยู่บนปลายนิ้วได้ รวมถึงเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ที่เป็นการสร้างโลกเสมือนให้เรา ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันแบบเสมือนจริง แม้จะอยู่คนละที่ คนละเวลาก็ตาม

การทำงานในโลกแห่งอนาคตจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากการทำงานอยู่กับที่ เราก็จะสามารถทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ หรือจากการรอเวลาของแต่ละประเทศเพื่อติดต่อกับทาง Regional หรือ Global เราก็จะสามารถติดต่อกันได้ทันที

ดังนั้นการติดต่อประสานงานของเราจะเปลี่ยนไป ทักษะที่ใช้ก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยเราจะใช้เทคโนโลยีเป็นหลักในการติดต่อประสานงาน จนเกิดเป็นทักษะใหม่คือการประสานงานผ่านโลกเสมือน (Virtual Collaboration)

วันนี้ เราจึงจะมาพูดถึงการเตรียมตัวเพื่อทำงานในสังคมโลกเสมือนกันค่ะ

แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจถึงความหมายของ โลกเสมือน (Virtual World)ก่อน โลกเสมือนคือการรวมตัวของกลุ่มคน เพื่อสร้างชุมชนออนไลน์ ที่ผู้ใช้งานระบบสามารถสร้างร่างอวตาร หรือแสดงตัวตนของตน เพื่อสื่อสาร ทำกิจกรรมและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่นในชุมชนเดียวกัน ผ่านระบบดิจิทัลต่าง ๆ เช่นกราฟฟิก 3 มิติ การฉายภาพวิดีโอเสมือนจริง ดังนั้นการทำงานในโลกเสมือนก็จะคล้าย ๆ กับการที่เราทำงานทุกวันนี้ เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางการติดต่อสื่อสาร สิ่งที่คุณต้องเตรียมตัวคือ

pexels photo 1323592

ปรับรูปแบบการทำงานของคุณให้ยืดหยุ่นมากขึ้น

อย่าพึ่งยิ้มกันไปค่ะ ว่าสบายแน่ ๆ เพราะจากปัจจุบันที่สแกนนิ้ว นั่งทำงานที่ Office ตั้งแต่ 8.00 -17.00 น.  วันจันทร์ – วันศุกร์ (หรือเสาร์สำหรับบางคน) การทำงานในอนาคตอันใกล้ (ที่จริงปัจจุบันนี้ ก็มีบางที่ทำแบบนี้แล้ว) จะเปลี่ยนเป็นการทำงานที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) เช่นที่บ้าน ที่ทำงาน Co-Working Space หรือแม้กระทั่งตามร้านกาแฟ โดยไม่มีกำหนดเวลาเข้างานที่ชัดเจน

เราจะต้องสแตนบายเตรียมพร้อมการทำงานแบบ 24/7 เพื่อติดต่อกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานคนละที่กับเรา ดังนั้นการปรับตัวให้คุ้นเคยกับชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของงานและสร้างและรักษาแรงจูงใจในการทำงานของตนเอง เพื่อส่งมอบงานให้สำเร็จตามกำหนดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

ฝึกใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีให้คล่องแคล่ว

เพราะต่อจากนี้ไป คุณจะไม่ได้แค่ทำงานกับคนที่นั่งข้าง ๆ ประสานงานกับเพื่อนคนละแผนกอีกต่อไป แต่การทำงานต่อจากนี้จะเชื่อมโยงเข้าหากันทั่วโลก ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึง Application ที่มี จะช่วยทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น

ลองจินตนาการถึงเวลาที่เราประชุมแบบ Conference Call แล้วมีผู้เข้าร่วมประชุมซักท่าน สองท่านที่ใช้ระบบไม่เป็น คงเกิดความปั่นป่วนพอสมควรเลยใช่ไหมคะ

ศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องความแตกต่างด้านวัฒนธรรม

เมื่อใดที่โลกเชื่อมเข้าหากันมากขึ้น คนเราก็มักจะหลงลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นเรื่องของความเชื่อ ธรรมเนียมปฏิบัติ แต่เชื่อไหมคะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวและอาจจะทำให้การทำงานของเราล้มไม่เป็นท่าเลยทีเดียว ดังนั้นการทำงานในโลกเสมือนที่มีสมาชิกจากทั่วทุกมุมโลก การศึกษา คำนึงถึงความแตกต่างเล็กน้อยเหล่านี้ จะสามารถช่วยให้การทำงานราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

เห็นไหมคะว่าจริง ๆ แล้วทักษะนี้ เป็นทักษะที่ผสมผสานระหว่างการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่มีทักษะด้านการประสานงานและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีอยู่แล้ว คุณก็เพียงเพิ่มพูนทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีเท่านั่นเอง แต่หากคุณไม่ถนัดทั้ง 2 ด้านก็พยายามเข้านะคะ