สถานการณ์ในฝรั่งเศสยังคงไม่สู้ดี โดยการประท้วงที่กินเวลาติดต่อกันนานถึง 4 สัปดาห์กำลังทำให้ทั่วโลกต้องหันมาจับตามองว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศแห่งนี้
โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูเอล มาครง มีรายงานว่า อาจจะออกมากล่าวปราศรัยกับผู้ประท้วง และเสนอมาตรการบางอย่างเพื่อเป็นการช่วยผู้มีรายได้น้อยในฝรั่งเศสในวันจันทร์ (ตามเวลาของฝรั่งเศส) เพื่อให้ความโกรธแค้นของชาวเมืองบรรเทาเบาบางลง
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส Bruno Le Maire ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ขณะที่เดินทางเยือนร้านค้าต่าง ๆ ในกรุงปารีส ที่ได้รับความเสียหายจากการประท้วงว่า นี่คือวิกฤติของประเทศอย่างแท้จริง
โดยเมืองหลวงอย่างกรุงปารีสได้รับความเสียหายมากที่สุด ทั้งตึกรามบ้านเรือนถูกทำลาย รถยนต์ถูกเผา ร้านค้าต่าง ๆ ถูกปล้นชิงสินทรัพย์ แต่ยังไม่มีการออกมาประเมินตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝรั่งเศสว่ามีมูลค่าทั้งสิ้นเท่าใด โดยมีเพียงสมาคมค้าปลีกของฝรั่งเศสที่ออกมาเผยว่า มูลค่าความเสียหายจากการประท้วงครั้งนี้อาจมากถึง 1 พันล้านยูโร นับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่เริ่มมีการประท้วง
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเผยว่า นับตั้งแต่มีการประท้วงนั้น ร้านอาหารในฝรั่งเศสมียอดขายลดลง 20% – 50% และหากการประท้วงยังคงดำเนินต่อไป ก็น่าจะกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยวของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน โดยตัวเลขในปี 2560 ฝรั่งเศสมียอดนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ล้านคน
