แต่ละสัปดาห์การเฝ้าระวังโรคเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ในช่วงนี้ กรมควบคุมโรค ได้ออกรายงาน “พยากรณ์โรค และภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 188 ประจำสัปดาห์ที่ 48 (วันที่ 9 – 15 ธันวาคม 2561 ) มุ่งโดยเน้นสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าเป็นหลัก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า ในปี 2561 พบผู้เสียชีวิต 17 ราย ใน 14 จังหวัด จากบุรีรัมย์ ระยอง และสงขลา จังหวัดละ 2 ราย สุรินทร์ ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง หนองคาย ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ตาก และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติสงสัยโรคพิษสุนัขบ้า เข้ามารับการรักษาในสถานพยาบาลของไทย มีประวัติถูกสุนัขของตัวเองที่เลี้ยงไว้กัดเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา
“การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าได้ เนื่องจากโรคนี้สามารถพบได้ตลอดทั้งปี ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อากาศร้อนสลับเย็น อาจทำให้สัตว์หงุดหงิดง่าย แม้จะเป็นสุนัขในบ้านที่ได้รับวัคซีนป้องกันแล้วก็ตาม อาจได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าจากที่สุนัขของตนเองที่ไปเล่นกับสุนัขจรจัดนอกบ้านได้ กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนว่า ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ไม่ทราบประวัติฉีดวัคซีน “
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำ หลัก “คาถา 5 ย.” เพื่อลดความเสี่ยงการรับเชื้อพิษสุนัขบ้า ประกอบด้วย
1.อย่าเหยียบ บริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์
2.อย่าแยก สัตว์ที่กำลังกัดกัน
3.อย่าแหย่ สัตว์เพราะอาจโดนกัด/ข่วน
4.อย่าหยิบ อาหารสัตว์ขณะกำลังกิน
5.อย่ายุ่ง กับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย
ทั้งนี้หากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน ให้ล้างแผลทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด และฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโปรวิดีนหรือแอลกอฮอล์ และรีบไปโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้าน เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้เร็วที่สุด โดยต้องฉีดวัคซีนให้ครบชุดและตรงตามนัด จึงจะได้ผล เพราะหากติดเชื้อพิษสุนัขบ้า และปล่อยทิ้งไว้จนเชื้อเข้าสู่ระบบประสาท แสดงอาการป่วยแล้ว ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกราย ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422”