ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พนักงานในกองบรรณาธิการ (กองบก.) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กำลังเกิดความระส่ำอย่างหนัก หลังมีรายงานข่าวว่า ทางฝ่ายบริหารต้องการที่จะปลดพนักงานในส่วนของกองบก. โดยเฉพาะคนที่จะเกษียณอายุในปีนี้ประมาณ 15 คน ซึ่งปกตินั้น แม้พนักงานจะมีอายุครบเกษียณแล้ว แต่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐก็จะมีการว่าจ้างต่อ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า หากเลิกจ้างผู้ที่เกษียณอายุไปแล้ว 15 คน แต่ยังไม่พอกับจำนวนที่ต้องการ ภายในเดือนมกราคม 2562 ก็จะดำเนินการปลดพนักงานอีก 15% ซึ่งปัจจุบันกองบก.ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมีพนักงานอยู่ราวร้อยกว่าคน
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ในขณะนี้ ทั้งผู้สื่อข่าว และหัวหน้าข่าว ในกองบก. เกิดความหวั่นไหวกับความไม่ชัดเจนว่า จะมีการเลิกจ้างพนักงานส่วนไหนบ้าง จนทำให้ หัวหน้างาน และพนักงานบางส่วนมีความรู้สึกไม่มั่นคง มีการพูดคุยกัน พร้อมที่จะวางปากกา และเดินออกจากไทยรัฐ
นอกจากความไม่ชัดเจนแล้ว ยังมีเสียงข่มขู่ที่จะเลิกจ้าง ทำให้พนักงานเสียขวัญ และกำลังใจในการทำงาน ทั้งยังมีการพูดคุยกันว่า การเลิกจ้างที่เกิดขึ้นนั้น เป็นมติของฝ่ายบริหาร และครอบครัว
กระแสข่าวที่ออกมา ยังรวมถึงเรื่องที่ทางหนังสือพิมพ์จะยกเลิกแผนกภูมิภาคทั้งแผนก และลดจำนวนพนักงานในแผนกอื่นๆ ลง ทั้งในส่วนของแผนกรีไรท์ ฝ่ายการเมือง และฝ่ายเศรษฐกิจ
ในส่วนที่เป็นรีไรท์ของฝ่ายการเมือง และอาชญากรรม เกิดความระส่ำมากในขณะนี้ เนื่องจากความไม่ชัดเจนของฝ่ายบริหารว่าจะปรับลดขนาดองค์กรให้เหลือพนักงานเท่าไร มีแต่บอกว่า จะยุบตรงโน้น ลดตรงนี้ ไม่มีความชัดเจนในการพูดคุยกับพนักงาน ทั้งยังมีกระแสข่าวว่า ในส่วนของหัวหน้าการเมืองนั้น ฝ่ายบริหารเตรียมเอาคนข้างนอกเข้ามาแทน ยิ่งทำให้แผนกการเมืองเกิดความระส่ำหนักมากขึ้น
“แต่ที่มีความชัดเจนแน่นอนขณะนี้ คือ สิ้นปีนี้จะต้องออก 15 คนโดยเฉพาะคนที่จะเกษียณอายุ แต่ 15 คนนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นใคร ก็ต้องรอถึงสิ้นปีนี้กว่าจะรู้ว่า ใครจะถูกเลิกจ้างบ้าง ถ้าจำนวนที่จะปรับลดยังไม่เพียงพอ ก็จะต้องปรับลดพนักงานทั้งกองบก. ลงอีก 15% ในเดือนมกราคม แต่ทุกอย่างยังอยู่ในความคลุมเครือ ไม่ได้แจ้งให้พนักงานทราบอย่างชัดเจน” รายงานข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายบริหารมีแนวคิดที่จะนำพนักงานในส่วนของหนังสือพิมพ์ไปรวมกับสถานีโทรทัศน์ของไทยรัฐ แต่ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยคัดค้านแนวคิดดังกล่าว
กระนั้นก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อาจจะทำให้ฝ่ายบริหารต้องการลดขนาดลงให้เหลือเล็กที่สุด ซึ่งผู้สื่อข่าว ระบุว่า เป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะในส่วนของหนังสือพิมพ์นั้น ยังสามารถมีรายได้ที่ดี และมีกำไร
