Business

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง 3 เดือน

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.61 ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 80.5 จาก 81.3 เมื่อเดือนก่อน สาเหตุมาจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ยังคงตกต่ำ และสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
แถลข่าวดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.2561

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2561 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3  มาอยู่ที่ระดับ 80.5 จากเดือนก่อนหน้าที่ 81.3

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดทรงตัวระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมทั้งนักท่องเที่ยงจีนที่ลดลง และสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น จนถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย

ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังฟื้นตัวไม่มาก

ทั้งนี้ จากผลการสำรวจภาวะการณ์ใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งดัชนีความเหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่ การซื้อบ้านหลังใหม่ และความเหมาะสมในการลงทุนทำธุรกิจเอสเอ็มอี ลดลงทุกรายการ แต่ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวกลับปรับตัวดีขึ้นในรอบ 3 เดือน รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต แม้จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 92.0 แต่ใกล้เคียงระดับปกติที่ 100

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีปัจจัยบวกมากขึ้น หลังจากรัฐบาลมีมาตรกรกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival และปัญหาสงครามการค้าเริ่มมีการเจรจากัน ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลายรายการเริ่มปรับตัวดีขึ้น และช่วงสิ้นปีประชาชนมีการเฉลิมฉลองตามเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งรัฐบาลออกมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลบวกต่อการจับจ่ายเพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทั้งจีนจะเริ่มกลับมา และประเทศอื่น ๆ ก็มาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2561 กลับมาปรับตัวดีขึ้น

โดยไตรมาส 4 น่าจะขยายตัว 3.5-4%  ทำให้หอการค้าไทยยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ 4.2% แต่ยังต้องติดตามท่าทีกลุ่มโอเปค ที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลก และปัญหาสงครามการค้าจะยืดเยื้อหรือไม่ ขณะที่ปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตเกิน 4-4.5% โดยยังมีหลายปัจจัยที่ต้องตาม คือ ทางออกสงครามการค้า และทิศทางราคาน้ำมัน เป็นต้น

Avatar photo