Digital Economy

แชร์สนั่น อีเมลผู้บริหารเฟซบุ๊กเผยวิธีทำรายได้จาก ‘ดาต้า’

กำลังเป็นประเด็นในแง่ลบมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเฟซบุ๊ก หลังมีการเผยแพร่อีเมลที่ส่งกันเป็นการภายในของทีมบริหารองค์กรออกมา ซึ่งในจำนวนนี้มีอีเมลของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กด้วย และทำให้มีสื่อจำนวนหนึ่งตั้งคำถามว่า ทีมผู้บริหารระดับสูงของเฟซบุ๊กนั้น มองผู้ใช้งานเป็นเพียงโปรดักซ์ของบริษัทไปแล้วหรือไม่

1ace5333897fb06e324b8777328312cafa9f71de

อีเมลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยคณะกรรมการด้านดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬา (Digital, Culture, Media and Sport Committee) ของอังกฤษ ซึ่งมีนายดาเมียน คอลลินเป็นประธาน โดยเอกสารชุดนี้ได้รับการเปิดเผยว่า ได้มาจากนักพัฒนาแอพพลิเคชันรายหนึ่งที่กำลังมีคดีความกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เอกสารชุดนี้ควรจะเป็นเอกสารที่เป็นความลับและอยู่ในการพิจารณาของศาลที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดยอีเมลดังกล่าวเขียนขึ้นในช่วงปี 2555 – 2558 (2012 – 2015) รวมถึงมีบทสนทนาระหว่างผู้บริหารระดับสูงของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือและการแชร์ข้อมูล เช่น การที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเขียนเมลว่า

“Sometimes the best way to enable people to share something is to have a developer build a special purpose app or network for that type of content and to make that app social by having Facebook plug into it,” (อ้างอิงจาก BusinessInsider) หรืออาจแปลเป็นใจความได้ว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนแชร์บางอย่างออกไปก็คือ การมีนักพัฒนาสร้างแอพที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ หรือสร้างเน็ตเวิร์กเกี่ยวกับคอนเทนต์นั้น ๆ เอาไว้เป็นการเฉพาะ และมีเฟซบุ๊กเชื่อมต่อกับแอพเหล่านั้นอีกที (เพื่อให้การแชร์นั้น ๆ กลับขึ้นมาปรากฏเป็นคอนเทนต์บนเฟซบุ๊กด้วย)

Part DV DV262882 1 1 0

ด้านเฟซบุ๊กชี้ว่า การเปิดเผยอีเมลเหล่านั้นเป็นการเลือกหยิบเฉพาะบางส่วน หรือข้อมูลบางด้าน ซึ่งส่งผลในแง่ลบมาเผยแพร่เพื่อโจมตีบริษัท พร้อมกับชี้แจงว่า บริษัทได้มีการเปลี่ยนนโยบายในช่วงปี 2557 – 2558 เกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้แอพจากภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลรายชื่อเพื่อน ๆ ของผู้ใช้งานได้อีก โดยเฟซบุ๊กบอกว่า กรณีของเคมบริดจ์ อะนาไลติกาที่เกิดขึ้นนั้นแสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กตัดสินใจถูกที่จำกัดสิทธิดังกล่าวด้วย

Avatar photo