“หมอเสริฐ” น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของอาณาจักรโรงพยาบาล BDMS ซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลในกลุ่ม 46 แห่ง เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และช่วงทีวีดีจิทัลพีพีทีวี ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 โดยถือหุ้นโรงพยาบาลกรุงเทพ-นนทเวช-บางกอกแอร์เวย์ส รวมมูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท
ตามด้วยอันดับ 2 เป็นเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้นกัลฟ์รวย 58,000 ล้านบาท ส่วนตระกูลปราสาททองโอสถ ยังครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 6 เครือญาติสร้างสถิติใหม่ถือครองหุ้นทะลุ 1 แสนล้านบาท
วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2561 ปรากฏว่าน.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือหมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ(BDMS) โดยปีนี้หมอเสริฐถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมกว่า 77,129 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นกว่า 13,602 ล้านบาท หรือ 21.41% ส่งผลให้หมอเสริฐ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 ซึ่งเป็นการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แล้ว
ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ปีนี้ เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF เข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก จากการนำหุ้น GULF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 โดยวันแรกของการซื้อขายราคาหุ้น GULF พุ่งไปแตะสูงสุดที่ 59.50 บาท จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 45 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 14.50 บาท หรือ 32.22% หลังจากนั้นราคาหุ้นทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 76.25 บาท ณ 30 กันยายน 2561 หรือเพิ่มขึ้นถึง 69.44% ส่งผลให้สารัชถ์ที่ถือหุ้น GULF ในสัดส่วน 35.44% มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 57,645 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของเศรษฐีหุ้นไทย
เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ไว้ได้อีกปีหนึ่ง โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,209.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,940.11 ล้านบาท หรือ 26.87% เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ ชูชาติ เพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือเมืองไทยลิสซิ่ง ก้าวขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 35,392 ล้านบาท รวยขึ้น 9,664 ล้านบาท หรือ 37.56% ขณะที่ ดาวนภา เพชรอำไพ ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 จากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่า 34,740 ล้านบาท รวยขึ้น 9,360 ล้านบาท หรือ 36.88%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ขยับขึ้นมาจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,580 ล้านบาท หรือ 16.17% เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ร่วงจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าอันดับเศรษฐีหุ้นของนิติ จะลดลงในปีนี้ แต่มูลค่าความมั่งคั่งของพอร์ตการลงทุนก็ยังเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 31,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,066 ล้านบาท หรือ 10.61%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ร่วงจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 28,919 ล้านบาท ลดลง 15,163 ล้านบาท หรือ 34.40% เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ในปีนี้ร่วงลงจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้นที่คีรีถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 28,372 ล้านบาท ลดลง 518 ล้านบาท หรือ 1.79% และเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PSH) ร่วงจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 28,011 ล้านบาท ลดลง 3,025 ล้านบาท หรือ 9.75%
สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 2561 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถ โดยเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งปีนี้เครือญาติในตระกูลครองหุ้นรวมกันมีมูลค่าทะลุ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรกของทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 ปีนี้ ตกเป็นของตระกูลเพ็ชรอำไพ-เพชรอำไพ อันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลจิราธิวัฒน์ อันดับ 4 ตระกูลรัตนาวะดี อันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลอาหุนัย
