Marketing Trends

‘5 ทางรอด’นักการตลาดยุค‘ดิจิทัล พลัส’

ในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “นักการตลาดในอนาคต” จะไปอย่างไรต่อ ในยุคดิจิทัล พลัส (Digital Plus) ที่ไม่ใช่แค่ยุคดิจิทัลแบบเดิมๆ อีกต่อไป

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล เจ้าของหนังสืออัจฉริยะการตลาด  ประธานหลักสูตร Master in Branding and Marketing และอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่ายุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 15 ปี  วันนี้ดิจิทัลจึงไม่ใช่สิ่งใหม่  แต่หากจะถามคำถามง่ายๆ ว่า “ดิจิทัลคืออะไร” ก็เชื่อว่ามุมมองของแต่ละคนจะแตกต่างกัน

 

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล MAT 2018
ดร.เอกก์ ภทรธนกุล

“ได้มีโอกาสคุยกับ โทนี่ เฟอร์นานเดส  ซีอีโอของแอร์เอเชีย จึงตั้งคำถามไปว่า  What is Digital?  คุณโทนี่ตอบได้น่าสนใจว่า Digital is I don’t know, you don’t know, we don’t know, no one know (ดิจิทัล คือ สิ่งที่เขาก็ไม่รู้, คุณก็ไม่รู้, พวกเราก็ไม่มีใครรู้ และก็ไม่มีใครรู้) เพราะดิจิทัลเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าขอบเขตของดิจิทัลอยู่ที่ไหน”

วันนี้โลกเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้งานโซเชียล มีเดีย ของแต่ละวัยจึงแตกต่างกัน คนทั่วไปยังคงใช้แพลตฟอร์มหลัก คือ เฟซบุ๊กและไลน์

แต่ไม่ใช่สำหรับ “คนรุ่นใหม่” ที่เกือบ 100% ใช้ “ทวิตเตอร์” เป็นช่องทางการสื่อสาร  ดังนั้นหาก “นักการตลาด” ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น “นั่นแสดงให้เห็นว่าอาจจะคุยกับคนรุ่นใหม่คนละเรื่อง”

MAT 2018 Social Media

ขณะที่เด็กรุ่นใหม่ก็คือ “ว่าที่ลูกค้า” ของนักการตลาดและแบรนด์ในอนาคต ที่ต้องทำความรู้จักตั้งแต่วันนี้ เพราะหากยังทำตัว “อยู่กันคนละโลก” จะเป็นความเดือดร้อนของนักการตลาดในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และก้าวให้ทันยุค “ดิจิทัล พลัส”

ปัจจุบันโลกการสื่อสารไม่แบ่งเป็น โลกออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ อีกแล้ว และไม่มีโอกาสที่ “ออนไลน์” จะแทนออฟไลน์ ได้ทั้งหมด จะเห็นได้ว่ายักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ  “อเมซอน” ยังต้องเปิดร้านขายสินค้า “อเมซอน โก”

ขณะที่ในจีนได้พัฒนาร้านค้าแบบไร้เงินสด Bingo Box รูปแบบเดียวกับ อเมซอน โก  ปัจจุบัน Bingo Box มีสาขาในจีนกว่า 500  สาขา และสนใจขยายสาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีร้านคอนวีเนียนกว่า 1 หมื่นสาขา  เชื่อว่า Bingo Box ที่มีเจ้าของชื่อ “แจ็ค หม่า” พร้อมแข่งขันกับคอนวีเนียนสโตร์ยักษ์ใหญ่ในไทยทุกราย

ทั้ง อเมซอน โก และ Bingo box เป็นทั้งออฟไลน์และออนไลน์  ซึ่งในยุคหนึ่งนักการตลาด มักพูดเรื่อง อโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์ เดอะไลน์  เป็นสิ่งที่นักการตลาดมักคิดแทนลูกค้า  แต่ลูกค้ากลับมองเป็นเรื่อง “คอมมูนิเคชั่น” แบบไม่มีเส้นแบ่ง  เช่นกันในยุคนี้ ที่นักการตลาดมักจะพูดเรื่อง “ดิจิทัล” ว่าจะเป็น ออนไลน์และออฟไลน์ แต่ก็เป็นสิ่งที่นักการตลาดเองต้อง forget  the line และมองเป็นเรื่อง  On Life  ที่จะต้องไปอยู่ในชีวิตของลูกค้าในทุกที่ทุกเวลา

MAT 2018 Amazon Binggo box

ความน่ากลัวของยุคดิจิทัล มีประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้น คือ กรอบแนวคิดเดิมๆ หายไป จะเห็นได้ว่าในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เคร่งครัดในกฎระเบียบสูง เมื่อมีธุรกิจที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่อย่าง  “แอร์บีเอ็นบี” เข้ามาให้บริการ ในช่วงต้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่หลังจากแนวโน้ม แชริ่ง อีโคโนมี เติบโต ญี่ปุ่นได้แก้ไขกฎหมาย เพื่อดูแลธุรกิจแชริ่ง อีโคโนมี แทน ดังนั้นการจะก้าวไปข้างหน้าจึงต้องเปลี่ยนแนวคิดเดิม”

ในโลกที่ไม่มีเส้นแบ่ง และใครๆ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็น “นักการตลาด” ได้ในทุกวงการ  หากเป็นแวดวงนักร้องเพลงร็อก ก็ต้องยกตำแหน่งนักการตลาดแห่งปี ให้กับ  “ตูน” อาทิวราห์ คงมาลัย ที่สร้างปรากฎการณ์ดึงคนทั่วประเทศมาร่วมบริจาคในโครงการก้าวคนละก้าว

ขณะที่ “แจ๊ค หม่า” ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา มาจากครูสอนภาษาอังกฤษ  และ แดเนียล จาง CFO อาลีบาบา เป็นคนคิดแคมเปญวันคนโสด  11.11 ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก

ตัวอย่าง นักการตลาด ในประเทศไทยที่ไม่ได้มาจากอาชีพนักการตลาด เช่น ร้านบิ๊กเต้ (BigTeShop) โชห่วยรุ่นใหม่ ย่านธรรมศาสตร์รังสิต ที่แข่งขันได้กับเชนคอนวีเนียนสโตร์

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนทั่วไป ก็เป็นนักการตลาดที่ดีได้ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานเป็นนักการตลาด และไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นนักการตลาดและทำการตลาดได้ดีมาก

“5 อาชีพ”นักการตลาดแห่งอนาคต

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาชีพ “นักการตลาด” จะอยู่อย่างไรในยุคดิจิทัล ที่คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น  จากการเก็บข้อมูล “นักการตลาดแห่งอนาคต” พบว่ามี  “5 ทางรอด” ของอาชีพนักการตลาดในยุคนี้  

MAT 2018 C1

1.Chief Marketing Technologist

ในอดีต มาร์เก็ตติ้ง คือ มาร์เก็ตติ้ง  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ “ลูกค้า” ทักษะอื่นๆ เป็นสิ่งที่ตามมา ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  ทำให้มี “เครื่องมือ” การตลาดใหม่ๆ ออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนักการตลาดจะต้องเรียนรู้เทคโนโลยีที่จะทำมาใช้อยู่ตลอดเวลา  ไม่ว่าจะเป็น ไอซีโอ สกุลเงินดิจิทัล บิทคอยท์  บล็อกเชน  บิ๊กดาต้า เอไอ แมชชีน เลิร์นนิ่ง

จะเห็นได้ว่าวันนี้มี “เครื่องมือ” ใหม่ๆ ที่เกิดจากเทคโนโลยีจำนวนมาก  จากการสำรวจในปี 2559 มีเทคโนโลยีด้านมาร์เก็ตติ้ง (Mar Tech) กว่า 3,500 เครื่องมือ  ล่าสุดปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 เครื่องมือ

“คำถามวันนี้ นักการตลาดจะเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น จากเทคโนโลยีได้อย่างไร  ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดทั่วไปไม่ค่อยรู้ แต่คนที่รู้ คือ นักเทคโนโลยี หรือ ไอที แต่คนกลุ่มนี้จะไม่รู้จักลูกค้า  ดังนั้นโอกาสของนักการตลาดวันนี้ คือ การรวม 2 ฝั่งทั้งนักการตลาดและไอที เข้าด้วยกัน  และเกิดตำแหน่งใหม่ใน องค์กร คือ Chief Marketing Technologist หรือ CMT  ที่ต้องมีทักษะการเป็นนักการตลาด นักเทคโนโลยี ครีเอทีฟ และครู  บริษัทขนาดใหญ่ อย่าง คิมเบอรี่ คล๊าก, SAP  ได้จัดตั้งตำแหน่งนี้ขึ้นแล้ว

MAT 2018 tools

CMT คือ คนที่เป็น มาร์เก็ตติ้ง เดิม แต่มีความเชี่ยวชาญและเก่งด้านเทคโนโลยี สามารถบอกฝ่ายต่างๆ ได้ว่า โปรดักท์ใดควรใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือต่างๆ กับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้า

“วันนี้คนอย่าง CMT หาไม่ค่อยได้  เพราะต้องเป็นนักการตลาดและนักเทคโนโลยีที่เก่ง ที่สำคัญต้องเป็น ครูที่เก่ง เพราะต้องอธิบายเรื่องยากๆ ให้คนอื่นเข้าใจด้วย  จึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเครื่องมือทั้ง 7,000 เครื่องมือมาใช้ให้เกิดประโยชน์  มนุษย์ CMT จึงต้องมีความเก่งที่หลากหลายและเป็นแนวทางใหม่ สำหรับนักการตลาดในยุคนี้”

MAT 2018 C2

2.Chief Customer Experimenter

การทำวิจัยการตลาดในยุคเดิม จะเป็นการสำรวจ การสัมภาษณ์  โฟกัสกรุ๊ป ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้ได้ดี เพียงแต่วันนี้มีแนวทางใหม่ในการทำวิจัย  เพราะวันนี้ผู้บริโภคเองอาจจะไม่แน่ใจ “คำตอบ”ในการสำรวจ  ดังนั้นจึงมีเทคโนโลยีและความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยให้การวิจัยการตลาดแม่นยำขึ้น  คือ “การทดลองการตลาด”

กรณีตัวอย่างจริง คือ ผลิตภัณฑ์ “คานิ” ปูอัด ที่ทำตลาดมากว่า 25 ปี ยอดขายปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท ได้ข้อเสนอมาจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ว่า สามารถเลือกวางขายปูอัด ได้ 3 ตำแหน่ง เพราะไม่มีที่วางเฉพาะเหมือนผลิตภัณฑ์อื่นๆ  1.วางข้างไข่ต้มในพื้นที่ตู้ทำความเย็น ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าสุขภาพ 2.วางข้างไส้กรอก (สแน็ค) และ 3.วางข้างอาหารญี่ปุ่น (ข้าวปั้น)

หากเป็นการสำรวจโดยสัมภาษณ์ลูกค้า ก็อาจไม่ได้คำตอบที่แม่นยำ กรณีนี้จึงควรทำ “การตลาดทดลอง” ด้วยการนำสินค้าวางทั้ง 3 ตำแหน่งเพื่อดูพฤติกรรมการหยิบสินค้าจรงของลูกค้า แต่เนื่องจากร้านเซเว่นฯ ไม่สามารถให้ทำการทดลองดังกล่าวได้  คานิปูอัด จึงสร้างแบบจำลองพื้นที่ชั้นวางเหมือนในร้านเซเว่นฯ เพื่อนำ คานิปูอัด ไปวางทั้ง 3 ตำแหน่ง

จากนั้นให้เงินกลุ่มทดลองเท่ากับค่าเฉลี่ยที่ใช้จ่ายในร้านเซเว่นฯ  เพื่อศึกษาว่าลูกค้าจะเลือกหยิบ “คานิปูอัด” จากตำแหน่งใดมากที่สุดผลคือ การวางไว้ข้างอาหารญี่ปุ่น ลูกค้ามองเห็นน้อยที่สุด  เพราะจากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่ากรณีที่หิว เมื่อซื้อข้าวปั้นญี่ปุ่นแล้ว จะไม่ซื้ออย่างอื่นเพิ่มอีก  ทำให้ไม่เห็นสินค้าปูอัด  ขณะที่การวางข้างไข่ต้ม มีโอกาสเห็นมากเป็นอันดับ 2  เพราะไข่เป็นสินค้าสุขภาพ  ดังนั้นเมื่อต้องการซื้ออาหารสุขภาพจึงเลือกหยิบไข่ มากกว่าปูอัด  จากการทดลองพบว่า ตำแหน่งที่ดีที่สุด คือการวางไส้กรอก  เพราะเมื่อลูกค้าเห็น ไส้กรอก กับ ปูอัด  จึงคิดว่าจะซื้อปูอัดแทน เพราะเป็นสินค้าไซส์เล็ก ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

การทำวิจัยทดลองการตลาด  ซึ่งเป็นการเรียนรู้จริงจากผู้บริโภคผ่านการทดลอง เดิมนักการตลาดมักไม่ทำการวิจัยวิธีนี้ แต่วันนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ  เพราะเป็นงานวิจัยที่บอกได้ทันทีว่าลูกค้าจะเลือกซื้ออะไร

ในยุคนี้จึงทำให้เกิดอีกตำแหน่ง ที่น่าสนใจของนักการตลาด คือ  Chief Customer Experimenter  พบว่าองค์กรค้าปลีก อย่างเทสโก้ โลตัส  มีผู้บริหารที่ดูแลเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ กูเกิล ที่ใช้กล้องตรวจจับสายตาผู้บริโภคเพื่อเก็บข้อมูลสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจ

“วันนี้เป็นนักการตลาดที่เข้าใจลูกค้าอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องเป็นนักวิจัย เป็น Scientist และ Economist จะเห็นได้ว่าความรู้ด้านการตลาดอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป”

MAT 2018 3C

3.Customer Data Artist

ปัจจุบันเรื่อง บิ๊กดาต้า กำลังอยู่ในความสนใจของทุกองค์กร  คำว่า “บิ๊กดาต้า” คนทั่วไปอาจยังไม่รู้ว่าฐานข้อมูลขนาดไหนจึงเรียกว่าเป็น บิ๊กดาต้า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเรื่อง บิ๊กดาต้า ให้หลักการไว้ง่ายๆ ว่า  “บิ๊กดาต้า” คือฐานข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดดูได้ด้วยคอมพิวเตอร์ธรรมดา  หากยังเปิดดูได้นั่นยังไม่เรียกว่า บิ๊กดาต้า

ตัวอย่างการใช้ บิ๊กดาต้า ที่น่าสนใจ คือ ห้างค้าปลีกของสหรัฐที่ชื่อว่า Target  ได้ส่งแคตตาล็อกสินค้าเด็กอ่อนไปให้หญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน จึงได้รับการร้องเรียนจากพ่อของหญิงสาว ที่ยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้ท้อง ผู้จัดการร้านจึงได้ส่งเรื่องไปยังส่วนกลาง เพื่อยกเลิกการส่งแคตตาล็อกสินค้าเด็กอ่อนไปให้ลูกค้าคนดังกล่าว และเอาชื่อออกจากระบบลูกค้าตั้งครรภ์ หลังจากนั้นได้แจ้งการแก้ไขข้อมูลกับคุณพ่อของหญิงสาว  ซึ่งคุณพ่อได้แจ้งว่ากลับว่าเพิ่งรู้ว่า “ลูกสาวท้อง” แต่ครอบครัวไม่รู้ว่าลูกสาวท้อง

MAT 2018 target

กรณีดังกล่าวเกิดจากระบบบิ๊กดาต้าของห้างทาร์เก็ต ซึ่งเก็บข้อมูลจำนวนมาก จากความสนใจดูสินค้าของลูกค้า หลังจากนั้นประมวลผลและวิเคราะห์ได้ว่าลูกค้าคนสนใจสินค้าใดและคนไหนมีแนวโน้มตั้งครรภ์  จึงส่งแคตตาล็อกสินค้าเด็กอ่อนมาให้เลือกซื้อสินค้า  โดยบิ๊กดาต้า วิเคราะห์จากการเปลี่ยนแปลงการซื้อสินค้าของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลง 23 รายการ จึงประเมินได้ว่าเข้าข่ายหญิงตั้งครรภ์  เช่น จากเดิมซื้อโลชั่นกลิ่นแรง เมื่อเริ่มตั้งครรภ์โฮโมนเปลี่ยนไม่ชอบกลิ่นแรง จะเปลี่ยนกลิ่นโลชั่น ,ซื้อสินค้ารสเปรี้ยวมากขึ้น

“วันนี้บิ๊กดาต้า ประมวลผลจากพฤติกรรมของลูกค้ามากกว่าที่ลูกค้าจะรู้จากตัวเองว่าต้องการสินค้าอะไร”

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพราะนักการตลาดพูดมาตลอดว่ารู้จักลูกค้ามากกว่าลูกค้ารู้จักตัวเอง แต่วันนี้ “บิ๊กดาต้า” เป็นเครื่องมือที่รู้จักลูกค้าดีกว่านักการตลาด  ดังนั้นข้อมูลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ  เพราะต่อไปในอนาคต  บิ๊กดาต้า จะรู้จักลูกค้ามากกว่าลูกค้ารู้จักตัวเอง

พฤติกรรมลูกค้าที่ซื้อสินค้าใดเป็นประจำ ก็จะได้ข้อเสนอพิเศษ จากสินค้าอีกแบรนด์ เพื่อดึงให้ลูกค้าเปลี่ยนใจมาซื้อสินค้าอีกแบรนด์  ทั้งหมดมาจากบิ๊กดาต้า และคนที่รู้เรื่องนี้ดี  ไม่ใช่เพียง data scientist  แต่เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลต้องมีศิลปะในการใช้ดาต้าด้วย  จึงเรียกบุคคลดังกล่าวว่าเป็น Data  Artist

ดังนั้นอีกตำแหน่งงานที่สำคัญของนักการตลาดในยุคนี้ คือ Customer Data  Artist  เพราะคนที่เก่งดาต้า คือ Artist  รวมทั้งต้องเข้าใจระบบการประมวลผล  อีกทั้งต้องเข้าใจระบบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน อีกทั้งต้องเป็นนักการตลาด นักสถิติ และเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้วย จึงถือเป็นอีกทางรอดของนักการตลาด

MAT 2018 4C

4.Chief Responsible Marketing

ปัจจุบันการทำ ซีเอสอาร์  ซึ่งถือเป็นการทำดีเพื่อสังคม เป็นสิ่งที่องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่างานด้าน ซีเอสอาร์ ในองค์กร  ผู้บริหารบางส่วน อาจมองว่าเป็น ค่าใช้จ่าย  พูดได้ว่าแม้ “อยากทำดี แต่ก็มีต้นทุนที่สูง”

ดังนั้นการทำซีเอสอาร์ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องใส่ “การตลาด” เข้าไปในซีเอสอาร์ด้วย   โดย ซีเอสอาร์ ต้องเป็นโปรแกรมที่ขายตัวเอง หรือหาสปอนเซอร์ได้ด้วย พร้อมทั้งทำหน้าที่ ซีเอสอาร์ ให้องค์กร

หากโครงการ ซีเอสอาร์ สามารถทำให้บริษัทจ่ายเงินน้อยที่สุดหรือไม่จ่ายเลย โดยมีสปอนเซอร์เข้ามาร่วมสนับสนุน อีกทั้งสามารถสร้างการรับรู้เรื่องการทำความดีขององค์กรได้ด้วย  ถือเป็น “สุดยอด”ของการทำ ซีเอสอาร์

ตัวอย่าง โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน (Journey D) ของแอร์เอเชีย เป็นโปรเจคซีเอสอาร์ดูแลชุมชนท่องเที่ยว 4 ชุมชน มองว่าหากนำนักท่องเที่ยวเข้าไปในชุมชนโดยไม่มีเงื่อนไข ชุมชนอาจได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปจำนวนมาก  จึงสร้างโมเดลท่องเที่ยวชุมชนที่แข็งแกร่ง  ก่อนจะนำคนเข้าไปท่องเที่ยว

MAT 2018 Airasia

หลังจากสร้างความแข็งแกร่งพัฒนาชุมชนมา 2 ปี ในปี 2562 เตรียมประกาศโครงการ Journey D ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาท โดยแอร์เอเชีย จะให้ตั๋วโดยสารฟรีไปใน 4 ชุมชนที่เข้าไปพัฒนา

โดยมีเงื่อนไขการได้รับตั๋วโดยสารฟรี  ที่นักท่องเที่ยวต้องทำตามกฎของแต่ละชุมชน  เช่น ห้ามนำพลาสติกเข้ามาในชุมชน, ต้องรับประทานอาหารของชุมชนได้, อาศัยในที่พักไม่มีเครื่องปรับอาหาร  เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวและชุมชนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หากทำตามกฎได้จะได้รับตั๋วโดยสารแอร์เอเชียในประเทศฟรี 1 ใบ

พบว่าโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น ททท. ทำให้ แอร์เอเชีย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำโครงการซีเอสอาร์  ถือเป็นรูปแบบการทำ “ซีเอสอาร์ มาร์เก็ตติ้ง” เป็นการเปลี่ยนมุมคิดด้านซีเอสอาร์  ทำให้เกิดตำแหน่งใหม่ของนักการตลาด คือ Chief Responsible Marketing  เป็นการนำเรื่องการตลาดมาทำงานร่วมกับ ซีเอสอาร์   ถือเป็นการทำงานของ นักการตลาด ซีเอสอาร์ นักพัฒนา รวมทั้งงานด้านบุคคล (HR) ที่สามารถดูแลคนในชุมชนได้

MAT 2018 5C

5.Customer Witch Catcher

ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีการตลาดที่ทำร้ายสังคมปะปนอยู่ด้วย  เช่น การนำข้อมูลของลูกค้าไปขายโดยไม่รู้ตัว  ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรม  ในยุคนี้จะมีคนพูดเรื่องจริยธรรม ในการทำธุรกิจยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดกลุ่มที่เรียกว่า Customer Witch Catcher เพราะคนที่ทำร้ายลูกค้าคือ “แม่มด” ขณะเดียวกันจะมีคนมาจับแม่มดมากขึ้น  เช่น เพจสายดาร์กต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากลูกค้า องค์กรต่างๆ  และมีบิซิเนส โมเดล ที่น่าสนใจ

นักการตลาดที่จะเป็น  Customer Witch Catcher ได้ นอกจากเป็นนักการตลาดแล้ว ต้องเป็น Regulator รวมทั้งคุณครูที่สามารถสอนลูกค้าได้  และต้องเป็นผู้สื่อข่าวที่เตือนให้ลูกค้าระวังหลุมพราง ต้องเป็นผู้ที่กระจายข่าวได้ดี

ในยุคดิจิทัล พลัส  การเป็นนักการตลาดเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไป  แต่ต้องเป็น Marketer Plus  ด้วยเช่นกัน  ซึ่งมี 5 ตำแหน่งใหม่ที่ถือเป็น “ทางรอด” และทางแห่งอนาคตของนักการตลาด  ที่ทักษะด้านมาร์เก็ตติ้งเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ทางแห่งอนาคตอีกต่อไป

Avatar photo