ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดชนบท แต่พื้นที่ในเขตเมืองก็ได้รับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่แพ้ภาคอื่นๆ เช่นกัน
จากรายงานผลสำรวจตลาดอสังหาฯโดย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัย ที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งแรกปี 2561 ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และจังหวัดมหาสารคาม โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย
จากการสำรวจพบว่า มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 319 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมทั้งสิ้น 37,219 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 145,131 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
- โครงการบ้านจัดสรร 248 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 26,018 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 98,958 ล้านบาท
- โครงการอาคารชุด 57 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 10,569 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 29,375 ล้านบาท
- โครงการวิลล่า 14 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 632หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 16,798 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจในช่วงครึ่งแรกปี 2561 มีหน่วยเหลือขายจำนวน 13,727 หน่วย หรือ 36.9% ของหน่วยในผังโครงการทั้งหมด โดยโครงการบ้านจัดสรรมีหน่วยเหลือขายจำนวน 10,929 หน่วย หรือ 42.0% โครงการอาคารชุดมีหน่วยเหลือขายจำนวน 2,506 หน่วย หรือ 23.7% และโครงการวิลล่ามีหน่วยเหลือขายจำนวน 292 หน่วย หรือ 46.2% ของหน่วยในผังโครงการวิลล่าทั้งหมด
อสังหาฯโคราชเปิด 1.8 หมื่นหน่วย
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน 155 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 18,069 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 84,445 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 6,858 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 34,330 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 109 โครงการ มีจำนวนหน่วย 13,020 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 50,865 ล้านบาท
มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 5,353 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 21,580 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 32 โครงการ มีจำนวนหน่วย 4,417 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 16,782 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,213 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 4,698 ล้านบาท
มีโครงการวิลล่า จำนวน 14 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 632 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 16,798 ล้านบาท หน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 292 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 8,053 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 17,437 หน่วย ส่วนใหญ่ 56.6% เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมา 25.3% เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท และ 3 – 5 ล้านบาท 5.1% เป็นที่ดินเปล่าจัดสรร อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท 4.5% เป็นอาคารพาณิชย์ อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดนครราชสีมาที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- 1) ทำเลหัวทะเลขายได้ 72.6% มูลค่าขายได้ 5,704 ล้านบาท
- 2) ทำเลในเมืองนครราชสีมาขายได้ 70.2% มูลค่าที่ขายได้ 5,377 ล้านบาท
- 3) ทำเลสุรนารี-ปักธงชัยขายได้ 66.5% มูลค่าที่ขายได้ 4,039 ล้านบาท
- 4) ทำเลนิคมลำตะคองขายได้ 59.2% มูลค่าที่ขายได้ 247 ล้านบาท
- 5) ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวดขายได้ 58.2% มูลค่าที่ขายได้ 7,055 ล้านบาท
ส่วนทำเลอาคารชุดในจังหวัดนครราชสีมาที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- ทำเลในเมืองนครราชสีมาขายได้ 77.9% มูลค่าที่ขายได้ 2,507 ล้านบาท
- ทำเลกลางดงขายได้ 72.5% มูลค่าที่ขายได้ 331 ล้านบาท
- ทำเลเขาใหญ่ขายได้ 71.2% มูลค่าที่ขายได้ 8,871 ล้านบาท
- ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวด ขายได้ 57.0% มูลค่าที่ขายได้ 375 ล้านบาท
อสังหาฯขอนแก่นเปิด 7.5 พันหน่วย
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดขอนแก่น มีจำนวน 68 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 7,541 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 26,991 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,670 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 9,528 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 57 โครงการ มีจำนวนหน่วย 5,358 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 21,758 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,111 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 8,068 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 11 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,183 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 5,234 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 559 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 1,461 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 7,541 หน่วย ส่วนใหญ่ 46.1% เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมา 28.9% เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท 11.3% เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท 7.8% เป็นบ้านแฝด อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดขอนแก่นที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- 1) ทำเลท่าพระขายได้ 94.1% มูลค่าขายได้ 735 ล้านบาท
- 2) ทำเล ม.ขอนแก่น ขายได้ 73.4% มูลค่าที่ขายได้ 3,172 ล้านบาท
- 3) ทำเลกสิกร-ทุ่งสร้างขายได้ 66.1% มูลค่าที่ขายได้ 554 ล้านบาท
- 4) ทำเลบุงหนองโครตขายได้ 64.9% มูลค่าที่ขายได้ 1,664 ล้านบาท
- 5) ทำเลบึงแก่นนครขายได้ 62.6% มูลค่าที่ขายได้ 3,125 ล้านบาท
ส่วนทำเลอาคารชุดในจังหวัดขอนแก่นที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- ทำเลบึงหนองโครตขายได้ 91.7% มูลค่าที่ขายได้ 249 ล้านบาท
- ทำเล ม.ขอนแก่นขายได้ 76.1% มูลค่าที่ขายได้ 1,892 ล้านบาท
- ทำเลกสิกร-ทุ่งสร้างขายได้ 74.4% มูลค่าที่ขายได้ 80 ล้านบาท
- ทำเลบึงแก่นนครขายได้ 65.8% มูลค่าที่ขายได้ 1,552 ล้านบาท
อสังหาฯอุบลฯ เปิด 3.6 พันหน่วย
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวน 37 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 3,662 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 10,599 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,550 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 4,555 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 34 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,942 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 9,552 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,212 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 4,055 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 3 โครงการ มีจำนวนหน่วย 720 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 1,048 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 338 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 3,662 หน่วย ส่วนใหญ่ 51.6% เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมา 19.7% เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 1 – 1.5 ล้านบาท 13.5% เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท 11.2% เป็นบ้านแฝด อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดอุบลราชธานีขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- 1) ทำเลขามใหญ่ขายได้ 68.8% มูลค่าที่ขายได้ 542 ล้านบาท
- 2) ทำเลห้วยวังนองขายได้ 67.9% มูลค่าที่ขายได้ 618 ล้านบาท
- 3) ทำเลวนารมย์-โนนหงษ์ทองขายได้ 57.9% มูลค่าที่ขายได้ 1,363 ล้านบาท
- 4) ทำเลนาเมืองขายได้ 56.7% มูลค่าที่ขายได้ 941 ล้านบาท
- 5) ทำเลวารินชำราบขายได้ 54.0% มูลค่าขายได้ 1,221 ล้านบาท
ส่วนทำเลอาคารชุดในจังหวัดอุบลราชธานีที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- ทำเลนาเมืองขายได้ 72.1% มูลค่าที่ขายได้ 374 ล้านบาท
- ทำเลอุบลสแคว์ขายได้ 34.0% มูลค่าที่ขายได้ 98 ล้านบาท
- ทำเลเซ็นทรัลอุบลราชธานีขายได้ 28.9% มูลค่าที่ขายได้ 76 ล้านบาท
อสังหาอุดรธานีเปิด 5.6 พันหน่วย
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดอุดรธานี มีจำนวน 35 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 5,647 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 16,745 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,699 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 6,450 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 30 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,783 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 10,854 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,470 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 5,977 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 5 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,864 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 5,890 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 229 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 474 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 5,647 หน่วย ส่วนใหญ่ 50.7% เป็นอาคารชุดในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท รองลงมา 27.9% เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท 10.1% เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 และ 2 – 3 ล้านบาท 6.4% เป็นบ้านแฝด อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดอุดรธานีขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ได้แก่
- 1)ทำเลบ้านจั่นขายได้ 65.9% มูลค่าขายได้ 903 ล้านบาท
- 2) ทำเลทางออกหนองคายขายได้ 57.0% มูลค่าที่ขายได้ 1,402 ล้านบาท
- 3)ทำเลในเมืองขายได้ 45.6% มูลค่าที่ขายได้ 902 ล้านบาท
- 4)ทำเลบ้านเลื่อมขายได้ 43.2% มูลค่าที่ขายได้ 683 ล้านบาท
- 5)ทำเลหนองขามขายได้ 32.4% มูลค่าที่ขายได้ 509 ล้านบาท
ส่วนทำเลอาคารชุดที่ขายได้เป็นทำเลในเมืองอุดรธานี ขายได้ 92.0% มูลค่าที่ขายได้ 5,417 ล้านบาท
อสังหาฯมหาสารคามเปิด 2.3 พันหน่วย
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดมหาสารคาม มีจำนวน 24 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 2,300 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 6,351 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 950 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 2,553 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 18 โครงการ มีจำนวนหน่วย 1,915 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 5,929 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 783 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 2,324 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 6 โครงการ มีจำนวนหน่วย 385 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 422 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 167 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 229 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด 2,300 หน่วย ส่วนใหญ่ 48.4% เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 5 – 7.5 ล้านบาท รองลงมา 29.4% เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 2 – 3และ 3 – 5 ล้านบาท 16.7% เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 1 – 1.5 ล้านบาท 4.7% เป็นอาคารพาณิชย์ อยู่ในระดับราคา มากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดมหาสารคามที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ มี ทำเลในอำเภอเมืองมหาสารคามขายได้ 62.4% มูลค่าขายได้ 2,740 ล้านบาท และทำเลในอำเภอกันทรวิชัยขายได้ 53.7% มูลค่าที่ขายได้ 866 ล้านบาท
ส่วนทำเลอาคารชุดที่ขายได้เป็นทำเลในอำเภอกันทรวิชัยขายได้ 57.4% มูลค่าที่ขายได้ 76 ล้านบาท และทำเลในอำเภอเมืองมหาสารคามขายได้ 56.1% มูลค่าที่ขายได้ 116 ล้านบาท
