เกษตรฯ เสนอ ครม. โครงการรักษาเสถียรภาพยาง พรุ่งนี้ หวังจ่ายเงินชาวสวนยางของขัวญปีใหม่ 26 ธ.ค.นี้
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันที่4 ธันวาคม จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเกี่ยวกับมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เกี่ยวกับโครงการรักษาเสถียรภาพยางพาราโดยมี 3 มาตรการ คือ
- โครงการบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรชาวสวนยางพารา
- โครงการรณรงค์สร้างถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร
- โครงการส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายางพารา
สำหรับโครงการรักษาเสถียรภาพยางพารา จะจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพเกษตรกร ที่ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทางกยท.จะตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรับรองสิทธิ์โครงการฯ ระดับตำบล คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด เปิดรับสมัครเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรชาวสวนยาง ประกาศรับรองสิทธิ์รายชื่อ จากนั้นจะจ่ายเงินให้เกษตรกรผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คาดเริ่มจ่ายได้วันที่ 26 ธันวาคมนี้ เป็นของขวัญปีใหม่แก่ชาวสวนยาง
สำหรับโครงการรณรงค์สร้างถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร กยท.แจ้งว่ากำลังประสานกับกรมทางหลวง เพื่อกำหนดแบบก่อสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา เป็นถนนดินลูกรังอัดแน่นผสมยางพาราและผงปูนซีเมนต์ คาดจะเสร็จวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ยังต้องจัดทำสูตรผสมยางพาราสำหรับชุดดินแต่ละพื้นที่ ที่มีลักษณะดินแตกต่างกัน
ดังนั้นเมื่อได้แบบก่อสร้างและสูตรถนนสำหรับแต่ละชุดดินต้องเร่งประสานกรมบัญชีกลางกำหนดราคากลาง ตามแบบและสูตรที่กรมทางหลวงรับรอง กยท.ยังจัดทำคู่การทำถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา ที่เข้าใจง่ายแจกจ่ายไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่ง ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด สำรวจเงินสะสม อปท.และระยะทางของถนนที่แต่ละ อปท.จะสร้างซึ่งที่แสดงความประสงค์ยาวกว่า 1 กิโลเมตรทั้งสิ้น กยท.จะนำมาคำนวณความต้องการใช้น้ำยางมาเป็นส่วนผสม และทำหน้าที่ส่งน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรแก่ อปท. หากจังหวัดใดเกษตรกรไม่ผลิตน้ำยางสด หรือน้ำยางสดในพื้นที่ไม่เพียงพอให้รับจากเกษตรกรจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
ส่วนโครงการส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายางพารา มีวงเงินสินเชื่อสนับสนุนสหกรณ์การเกษตรในการแปรรูปยางพารา สำหรับการส่งออก โดย ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ย 4% ต่อปี สหกรณ์การเกษตรรับภาระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อเพิ่มการรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกรในพื้นที่ โดยไม่ผ่านคนกลาง
นายกฤษฎา กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการเป็นมาตรการระยะเร่งด่วน ที่จะส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีอีกหลายมาตรการที่จะดำเนินการทั้งการส่งเสริมการผลิตยางล้อ ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง ประสานกับกระทรวงการคลังรณรงค์มาตรการ “ใช้ช่วยชาติ” เพื่อให้ประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์ที่มียางพาราเป็นวัตถุดิบ แล้วนำลดหย่อนภาษี ได้สั่งให้ทูตเกษตรทุกประเทศเผยแพร่มาตรการดังกล่าวให้ต่างประเทศ ตลาดโลกจะเห็นถึงสต็อกยางพาราที่จะลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สามารถกระตุ้นราคาซื้อขายล่วงหน้าให้ปรับตัวสูงขึ้น
“กระทรวงเกษตรฯ ยังมีมาตรการระยะยาวรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดยลดพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม30% ของพื้นที่ปลูกยางทั่วประเทศ และได้ให้ กยท.ให้ศูนย์วิจัยยางพาราทุกแห่ง และกรมวิชาการเกษตรเร่งวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ยางพาราให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เป็นการลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งพัฒนาคุณภาพน้ำยางให้ดีขึ้น” นายกฤษฎา กล่าว
