Business

‘สินธรณี’ลงทุนพันล้านขยายโรงแรม-โฮมออฟฟิศ

ข้อมูลการสำรวจจากบริษัทที่ปรึษาการลงทุนระบุว่า ตลาดอสังหาฯที่่เปิดตัวคึกคักในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นโครงการลงทุนของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ในปี 2560 ที่ผ่านมาและแนวโน้มปี 2561 เริ่มเห็นผู้ประกอบการรายกลาง-รายย่อย ขยายการลงทุนเข้ามาในตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ซึ่งเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ ที่รุกทำตลาดอสังหาฯมานานกว่า 10 ปี ปีนี้มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าหลายปีก่อน

thumbnail 08
นายวุฒิชัย เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

นายวุฒิชัย เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ  บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทเตรียมงบสำหรับการลงทุนขยายธุรกิจไว้ 1,000 ล้านบาท ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยเริ่มจากธุรกิจโรงแรม สวัสดีป่าตองแอนด์สปา (Sawaddi Patong & Spa) ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องพักให้บริการมากกว่า 150 ห้อง ที่อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยจะขยายการลงทุนเฟสสอง เพิ่มจำนวนห้องพักเป็น 309 ห้อง ยังคงออกแบบในสไตล์ชิโนโปรตุกีส คงความเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ต โดยเฟสใหม่จะพัฒนาเสร็จพร้อมให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งการขยายการลงทุนโรงแรมเนื่องจากพบว่า ตลาดท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเติบโตค่อนข้างดี และอัตราการเข้าพักของโรงแรมเฟสแรก สูงถึง 95% ตลอดทั้งปี ทำให้บริษัทมั่นใจที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่อง

นอกจากในส่วนของโรงแรมแล้ว ในปีนี้บริษัทจะมีแผนลงทุนพัฒนาที่ดินเป็นโครงการจัดสรรโครงการแรก ซึ่งจะลงทุนในมูลค่า 500 ล้านบาท พัฒนาที่ดิน 8 ไร่ บนถนนเพชรเกษม ซอย 69 ขึ้นเป็นโครงการทาวน์โฮม ใช้เป็นโฮมออฟฟิศ เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้ถนน สามารถพัฒนาเป็นโฮมออฟฟิศได้ โดยคาดว่าจะพัฒนาจำนวน 60 ยูนิต เนื่องจากขนาดที่ดินไม่ใหญ่มาก ถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาฯสำหรับขายโครงการแรกของบริษัท

ส่วนธุรกิจใหม่อีกตัวที่คาดว่าจะพัฒนาในปีนี้คือ ธุรกิจ Self Storage หรือพื้นที่เก็บของ สำหรับคนเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ  ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็กลง เช่น คอนโดมิเนียมต่างๆ ที่มีขนาดจำกัด และออฟฟิศที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้คนมองหาพื้นที่เก็บของมากขึ้น เช่นที่เก็บจักรยาน กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้ากันหนาวที่ไม่ค่อยได้ใช้ ของใช้เหล่านี้มักเป็นปัญหาสำหรับคนที่อยู่คอนโด ซึ่งมีพื้นที่จำกัด

โดย Self Storage ถือเป็นเทรนด์ใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่อยู่อาศัยค่อนข้างจำกัด โดยคอนเซ็ปท์เบื้องต้น จะพัฒนาให้เข่าประมาณ 1,000 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท โดยกำลังเลือกทำเลที่เหมาะสม ซึ่งธุรกิจพื้นที่เช่าจะปล่อยเช่าในราคา 700 บาท/ตารางเมตร โดยทำเลที่เลือกจะเป็นพื้นที่บริเวณรอบๆ กรุงเทพฯ ซึ่งทางกลุ่มมีแลนด์แบงก์ที่พร้อมนำมาพัฒนาอยู่หลายแปลง

thumbnail ZU7A5947

จุดแข็งแลนด์แบงก์ได้เปรียบต้นทุน

นายวุฒิชัย กล่าวว่าแผนงานของบริษัทจะขยายการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเลือกที่ดินจากที่มีอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ หลายแห่ง ดูว่าพื้นที่ไหนมีความพร้อม มีศักยภาพก็จะนำมาพัฒนาโครงการให้เหมาะสมกับแต่ละทำเล ซึ่งจุดนี้ถือเป็นความได้เปรียบด้านต้นทุน เพราะบริษัทฯถือแลนด์แบงก์ต้นทุนเดิมมาเป็นเวลานาน เมื่อจะพัฒนาใหม่ไม่จำเป็นต้องซื้อที่ดินใหม่ ซึ่งแข่งขันกันที่ราคาขายค่อนข้างสูง

“ความเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ไม่ได้เสียเปรียบเสมอไป หากเรามีที่ดินในทำเลที่ดีอยู่ก่อนแล้ว ถือเป็นความได้เปรียบด้วยซ้ำ เพราะได้ต้นทุนที่ถูกกว่าการซื้อใหม่”

ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงาน ปัจจุบันยังคงมีอาคารสำนักงานแห่งเดียว คือ The Trendy Office อาคาร 29 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 13 เป็นอาคารสำนักงานเกรดบี แต่อยู่ในทำเลเกรดเอ ซึ่งจุดเด่นคือรองรับกับกลุ่มธุรกิจ Startup เอื้อต่อธุรกิจไซส์เล็ก โดยมีพื้นที่สำนักงานขนาดเริ่มต้นเพียง 20 ตารางเมตร จากพื้นที่สำนักงานทั้งอาคาร 1.8 หมื่นตารางเมตร ปัจจุบันมีผู้เช่าอยู่ราว 80% ที่เหลือจะมีการพัฒนาเพื่อให้เปิดเช่าใหม่ ในระดับราคาตารางเมตรละ 800 บาท/เดือน

thumbnail ZU7A5963

อีกธุรกิจที่สินธรณี ให้ความสำคัญคือการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก ในธุรกิจศูนย์การค้า คือโครงการ วิคตอเรีย การ์เด้นส์ คอมมิวนิตี้มอลล์ บนถนนเพชรเกษม พัฒนาบนที่ดินกว่า 20 ไร่ ออกแบบตกแต่งสไตล์วิคตอเรียน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษา มีผู้เช่าแล้ว 80% โครงการนี้ได้ร่วมมือกับ ทีเคปาร์ค พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ หรือ โนว์เลจ ปาร์ค ซึ่งจะมีห้องสมุด ห้องประชุม สตูดิโอ ถ่ายรูปสินค้า ขายสินค้าออนไลน์  และโคเวิร์คกิ้งสเปซ ปัจจุบันพัฒนาเสร็จแล้ว เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 เมษายนนี้ ซึ่งถือเป็นศุนย์เรียนรู้แห่งแรกในประเทศไทยที่ทำโดยเอกชน  ห้องสมุดชุมชน โคเวิร์คกิ้งสเปซ

thumbnail ZU7A5969

สัดส่วนธุรกิจพื้นที่เช่า 42%

นอกจากนี้ สินธรณี ยังมีธุรกิจที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะตัวแทนขาย ซึ่งยังคงเน้นขายโครงการในกลุ่มบริษัทเองเป็นหลัก และสัดส่วนการลงทุนในปีนี้แม้จะมีการพัฒนาอสังหาฯเพื่อขายเพิ่มเข้ามา แต่สัดส่วนธุรกิจหลักยังคงเดิม คือ กลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์ให้เช่า คิดเป็น 42% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2560 โดยธุรกิจที่ทำกำไรสูงสุดคือ The Trendy Office คิดเป็น 82% ของรายได้ในกลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์

จากนั้นเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 27% ของรายได้ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า วิคตอเรีย การ์เด้นส์ คิดเป็น 17% ของรายได้ และกลุ่มที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 14%

นายวุฒิชัย กล่าวด้วยว่าในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 20% เพิ่มจากการเติบโตปีที่แล้วอยู่ที่ 10% เนื่องจากมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้น ความเชื่อมั่นตลาดดีขึ้น และมั่นใจว่ากำลังซื้อในตลาดก็ดีขึ้นด้วย

Avatar photo