ญี่ปุ่นขยายเวลาคุมขัง “คาร์ลอส โกสน์” อดีตประธานกรรมการบริหารนิสสัน มอเตอร์ ต่ออีก 10 วัน ท่ามกลางสัญญาณถึงความขัดแย้งทางการทูตที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างญี่ปุ่น กับฝรั่งเศส ต่อสมดุลทางอำนาจในการเป็นพันธมิตรระหว่างเรโนลต์ กับนิสสัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเป็นพันธมิตรมานาน 19 ปี ระหว่างเรโนลต์ เอสเอ ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส และนิสสัน ของญี่ปุ่น กำลังเผชิญบททดสอบสำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังอัยการญี่ปุ่นจับกุมนายโกสน์ ในข้อกล่าวหาประพฤติผิดทางการเงิน
ทางการฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น นอกรอบการประชุมผู้นำจี 20 ที่เริ่มเปิดฉากขึ้นที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา ในวันนี้(30 พ.ย.) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะมีการหารือถึงเรื่องการจับกุมนายโกสน์ หรือการเป็นพันธมิตรของค่ายรถยนต์ทั้ง 2 รายดังกล่าวหรือไม่
นายโกสน์ วัย 64 ปี ถูกทางการญี่ปุ่นควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และในวันนี้ศาลได้อนุมัติให้ขยายเวลาควบคุมเขาไปอีก 10 วัน ซึ่งอัยการญี่ปุ่นอาจยื่นฟ้องเพื่อตั้งข้อหาเขาภายในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ หรือจับกุมเขาในข้อหาอาชญากรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อคุมขังเขาต่อไป
การที่นายโกสน์ถูกคุมขังอยู่ที่ญี่ปุ่น ทำให้การเป็นพันธมิตรของทั้ง 2 ค่ายรถยนต์ขาดผู้นำ และไม่มีคนเจรจากับทางการฝรั่งเศส ที่ระบุว่า ต้องการรักษาโครงสร้างเงินทุนของการเป็นพันธมิตรไว้ในแบบเดิม ที่เรโนลต์เป็นฝ่ายบริหารงานในนิสสัน ผ่านการถือหุ้น 43% ในค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ขณะที่นิสสันเอง มีหุ้นในเรโนลต์เพียง 15% ทั้งยังเป็นหุ้นที่ไม่มีสิทธิออกเสียงด้วย
หลังการพบหารือที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมญี่ปุ่น และนายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีการคลัง และเศรษฐกิจฝรั่งเศส ยืนยันว่า ทั้ง 2 ประเทศสนับสนุนการเป็นพันธมิตรระหว่างนิสสัน กับเรโนลต์
อย่างไรก็ดี อีกเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น นายเลอแมร์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสว่า เขา และนายเซโกะ เห็นพ้องที่จะคงโครงสร้างทางการเงินในปัจจุบันไว้ แต่ในเวลาต่อมานายเซโกะได้ออกมาปฏิเสธถึงเรื่องนี้ ทั้งยังได้ส่งจดหมายประท้วงไปยังนายเลอแมร์ ถึงการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ทั้งนี้ การจับกุมนายโกสน์ ทำให้นิสสันเกิดความพยายามใหม่ ที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเป็นพันธมิตรของ 2 ฝ่าย เนื่องจากมองว่า เรโนลต์มีอำนาจในการควบคุมบริษัทมากเกินไป ซึ่งยิ่งเพิ่มปัญหาให้กับรัฐบาลนายมาครง
ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจนั้น นายมาครงเป็นผู้บริหารจัดการให้รัฐบาลฝรั่งเศสเข้าถือหุ้นในเรโนลต์มากขึ้นเมื่อปี 2558 ทำให้เกิดการส่งสัญญาณเตือนภายในนิสสันว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้ก้าวออกมาข้างหน้า เพื่อเพิ่มอิทธิพลภายในบริษัทให้มากขึ้น
- ขยายผลสอบ ‘คาร์ลอส โกสน์’ ซุกรายได้จากต่างประเทศ
- เปิดเส้นทาง ‘คาร์ลอส โกสน์’ ใช้เงินบริษัทซื้อบ้านหรู 600 ล้าน
- 3 พันธมิตรส่อแววระส่ำ กับอนาคตที่ไร้เงา ‘คาร์ลอส โกสน์’
