ไม่ค่อยยอมขึ้นเวทีบ่อยนักสำหรับ ‘บิ๊กตึ๋ง-อนันต์ อัศวโภคิน’ เจ้าของและผู้ก่อตั้ง บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หลังวางมือจากการเป็นซีอีโอแลนด์แอนด์เฮ้าส์มาหลายปี ล่าสุดด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่ในแวดวงอสังหาฯ และเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เลยถูกเชิญให้ขึ้นเวทีเพื่อเป็นการเรียกแขก ในงานเปิดตัวสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา
สมาคมอสังหาฯน้องใหม่ ที่เกิดขึ้นเพราะกระแสอีอีซี (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ทำให้อสังหาฯในเมืองเกษตรอุตสาหกรรมอย่างฉะเชิงเทรา กลายเป็นตลาดที่ดินร้อนแรง ทุนต่างถิ่นรุกเข้ามาซื้อที่ดินจนราคาวิ่งไปสูงเกินความเป็นจริง ผู้ประกอบการในพื้นที่กว่า 30 ราย จึงร่วมกันก่อตั้งสมาคมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และเชื่อมโยงการพัฒนาอสังหาฯในพื้นที่อีอีซี
ขึ้นสเตจทั้งที นอกจากมาบอกเล่าประสบการณ์สร้างแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ฟันฝ่าอุปสรรคมาอย่างไรจนประสบความสำเร็จเป็นผู้นำตลาดมายาวนานตามหัวข้อ “44 ปีบนเส้นทางอสังหาริมทรัพย์” แล้ว “บิ๊กตึ๋ง” ยังนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพรวมอสังหาฯ โดยเฉพาะภาวะอสังหาฯปี 2562 ซึ่งพี่ใหญ่ของวงการมองว่า จะเป็นปีที่หนักหนาและท้าทาย ด้วยปัจจัยลบหลายด้าน
เริ่มตั้งแต่สภาพแวดล้อมธุรกิจ ที่คาดว่าจะเต็มไปด้วยอุปสรรค สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อโครงการ กำลังซื้อที่ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่าง และมาตรการคุม LTV (สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอสังหาฯแน่นอน
แนะชะลอลงทุนหยุดรับคน-ลดขยายงาน
“ปีหน้าอย่ารับคนเพิ่ม อย่าขยายงานมาก อย่าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯถ้าไม่จำเป็น เพราะเข้าไปก็ไม่ได้ราคา ตลาดหุ้นก็ไม่ดีเหมือนก่อน แต่ให้หันมาเน้นปรับปรุงระบบภายในบริษัทให้ดี” นายอนันต์ ย้ำและว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับบริษัทอสังหาฯ ไม่ใช่ที่ดินหรือโครงการ แต่เป็นระบบงานและบุคลากร ที่เป็นกลไกสำคัญและหัวใจสู่ความสำเร็จ
พร้อมยกตัวอย่าง การวางระบบงานของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ว่าที่ผ่านมาคิดไม่เหมือนคนอื่น โดยแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ไม่มีฝ่ายจัดซื้อ ไม่มีฝ่ายบุคคล แต่ให้ระบบงานเป็นตัวกำกับการทำงานให้เดินหน้า สร้างคนและไว้วางใจพนักงาน ให้เขาทำงานอย่างมืออาชีพ เชื่อมั่นและส่งเสริมให้ความรู้ เพิ่มศักยภาพคนให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
“ช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ผมรักษาคนไว้และส่งเสริมให้เขามีความรู้เพิ่มขึ้น ส่งไปอบรมเพิ่มพูนความรู้ และวางโครงสร้างให้ทำงานเป็นระบบ ลดขั้นตอนงานที่ซ้ำซ้อนออกไป ทำให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ระบบงานที่ดีจะทำให้บริษัทเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง” นายอนันต์ กล่าวและว่า ต้นทุนเรื่องบุคลากรสำคัญที่สุด ยิ่งกว่าต้นทุนเรื่องที่ดิน
เน้นความสำคัญระบบงาน-เพิ่มศักยภาพคน
“พวกเราที่ทำอสังหาฯชอบคิดว่า เรื่องที่ดินสำคัญที่สุด แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ ที่ดินเป็นเรื่องเล็กมากมีสัดส่วนในการพัฒนาอสังหาฯ 20% ถ้าเราซื้อที่ดินแพงไป 10% เทียบเป็นต้นทุนแล้วเท่ากับซื้อแพงไป 2% ที่ดินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญคือระบบงานและเรื่องคน ที่ต้องบริหารทุกอย่างเสร็จพร้อมกัน พร้อมโอนตามกำหนด เรื่องระบบมีค่ามากต้องรักษาไว้ให้ดี”
คำเตือนจากพี่ใหญ่ของวงการพูดเมื่อไรคนต้องฟัง ครั้งนี้ก็เช่นกัน มุมมองต่อตลาดอสังหาฯในปี 2562 ในสายตาของ “อนันต์ อัศวโภคิน” ผู้คร่ำหวอดในแวดวงอสังหาฯและฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจมาหลายรอบ มองว่าจะเป็นอีกปีที่อสังหาฯจะชะลอตัวแน่นอน มาจากปัจจัยเศรษฐกิจ และมาตรการเข้มงวดต่างๆ
นายอนันต์ กล่าวว่าที่ผ่านมาดอกเบี้ยต่ำมาก แต่อย่าชะล่าใจเพราะมันเป็นช่วงที่ผ่านไปแล้ว ภาวะดอกเบี้ยต่ำที่ทำให้กระตุ้นกำลังซื้อมันกำลังจะผ่านไป กำลังซื้อที่มากับดอกเบี้ยถูกกำลังจะหมดไป
“บ่อน้ำเก่าสะสมของเก่าเยอะ ต่อจากนี้ไปจะเหลือธรรมชาติแต่ละปี ส่วนบ่อน้ำเก่าสิบปีซื้อไปหมดแล้ว” บิ๊กตึ๋ง เปรียบเปรยกำลังซื้ออสังหาฯที่มีจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา โดยมองว่าสถานการณ์ซื้อแบบลงทุนเพราะดอกเบี้ยต่ำจะเริ่มหายไปในปีหน้า จะเหลือเฉพาะตลาดที่เป็น Real Demand ของจริงเท่านั้น
ระวังเศรษฐกิจตปท.ลูกค้าต่างชาติซื้อแล้วไม่โอน
อีกประเด็นที่พี่ใหญ่วงการอสังหาฯบอกว่าเป็นเรื่องน่าห่วง คือ การซื้ออสังหาฯของลูกค้าต่างชาติ จะเห็นว่าที่ผ่านมามีบริษัทอสังหาฯหลายรายขายลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก กลุ่มนี้เสี่ยงเพราะซื้อไว้แต่เมื่อถึงวันโอนอาจไม่โอนก็ได้
ต่างชาติมาซื้ออสังหาฯเยอะมาก ผมห่วงจะไม่โอน โดยเฉพาะตลาดคนจีนซึ่งเริ่มมีปัญหาเศรษฐกิจภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดรัฐบาลจีนออกมาตรการจำกัดคนจีน ที่จะนำเงินไปซื้ออสังหาฯต่างประเทศ อาจกระทบลูกค้าที่ซื้อไว้แล้วยังไม่ถึงกำหนดโอน อาจจะโอนไม่ได้
เมื่อดูปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นๆ ก็พบว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เช่นภาคท่องเที่ยวของเรายอดลดลงอย่างผิดปกติมาก คนจีนที่หายไปช่วงมีปัญหายังไม่กลับมาเที่ยว โรงแรมที่เชียงใหม่ ที่ภูเก็ตขณะนี้ก็ค่อนข้างแย่ ทั้งที่เข้าฤดูท่องเที่ยวแล้ว
นอกจากนี้ตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาในช่วงไตรมาส 3 ของบริษัทในตลาดฯไม่ดี เติบโตน้อยที่สุดในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ รวมถึงค้าปลีกก็ไม่ดี เช่น ธุรกิจในเครือแลนด์ฯที่ทำอยู่ คือ โฮมโปร ซึ่งมีสาขาหลายจังหวัด ไตรมาส 3 ที่ผ่านมายอดตกไปมาก ทั้งที่มีการเปิดสาขาเพิ่ม
“สิ่งที่อยากจะบอกคือ ปีหน้าเหนื่อยแน่อย่าขยายอะไรมาก ให้เก็บเงินสดไว้มากที่สุด ถ้าแบงก์ปล่อยกู้ก็กู้ให้เต็มที่ไม่ต้องกลัวดอกเบี้ยแพง เพราะดอกเบี้ยแพงยังดีกว่าไม่มีเงินสดหมุนเวียน นักธุรกิจไม่เคยกลัวดอกเบี้ยแพง แต่เรากลัวการไม่มีเงินมากกว่า” นายอนันต์ กล่าวทิ้งท้าย
