หลังจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกพ่าย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-2 ในเกมรองสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี เมื่อวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทำให้โอกาสการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายยุ่งยากขึ้นหลังหล่นมาเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม ด้วยผลงาน 6 แต้ม จากการลงเล่น 5 นัด
ในนัดสุดท้าย 11 ธันวาคม ลิเวอร์พูล จะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ นาโปลี ซึ่งเงื่อนไขการเข้ารอบที่ง่ายที่สุดแบบไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันของอีกคู่คือ เอาชนะให้ได้ 1-0 หรือถ้าเสียประตูต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ลูกขึ้นไป
ดูเหมือนจะเป็นงานที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเมื่อ นาโปลี แห่งกัลโช่ เซเรีย อา แฟนบอลทั่วโลกต่างรู้ดีว่าขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกมรับอยู่แล้วเมื่อพวกเขาขอแค่มีแต้มเชื่อว่าเป็นงานช้างที่เจอร์เก้น คล็อปป์ และ ลูกทีมต้องหาทางเจาะไปยิงให้ได้
แต่หากมืองในเรื่องสถิติตัวเลขเหล่าเดอะ ค็อปน่าจะพออุ่นใจได้บ้างเมื่อ ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะทีมจาก อิตาลี ยามเล่นในแอนฟิลด์ ในถ้วย “บิ๊กเอียร์” ได้ถึง 4 จาก 6 นัด แบ่งเป็น 2 เกมกับ อาแอส โรม่า, 1 นัดกับ อินเตอร์ มิลาน และอีก 1 เกมกับ ยูเวนตุส ส่วนทีมจากแดนมะกะโรนีที่บุกมายัดเยียดความปราชัยให้พวกเขาถึง แอนฟิลด์ ได้ มีเพียง เอซี มิลาน กับ ฟิออเรนติน่า เท่านั้น
หนล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล ได้เปิดบ้านต้อนรับทีมจาก อิตาลี ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก คือรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ซีซั่นก่อน ที่ไล่ถล่ม โรม่า 5-2 ส่วนเกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้ให้ทีมจาก อิตาลี คารัง แอนฟิลด์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 พ่าย ฟิออเรนติน่า 1-2
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล มีสถิติที่ดีกับการเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรัง แอนฟิลด์ เมื่อไม่แพ้ใครมาแล้ว 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้วนับรวมรอบคัดเลือก (ชนะ 7 เกม เสมอ 3 นัด) โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้คาบ้านคือการพ่าย เรอัล มาดริด 0-3 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2014
โดยใน 10 เกมดังกล่าว ลิเวอร์พูล ยิงได้ถึง 32 ลูก และเสียไป 9 ประตู และมีแค่นัดเดียวที่ยิงประตูไม่ได้คือเกมเสมอ ปอร์โต้ 0-0 เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
