กฟผ.– สวทช. จับมือวิจัยรถไฟฟ้า ระยะ 2 พัฒนาวิ่งไกล 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เผยต้นทุนดัดแปลง 2 แสนบาท ตั้งเป้าปี 63 ทำพิมพ์เขียวต้นแบบ พร้อมขยายผลเชิงพาณิชย์
เมื่อเร็วๆ นี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับมอบรถยนต์ไฟฟ้า “กฟผ. – สวทช. (i-EV)” ภายใต้ “โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลง และคู่มือการดัดแปลง” (EV Kit & Blueprint Project) ระหว่าง กฟผ. และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. เป็นผู้ส่งมอบ
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการกฟผ. กล่าวว่า ยานยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทในอนาคต อีกทั้งรถที่ผ่านการใช้งานมานานแล้ว อาจจะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กฟผ. จึงผลักดันโครงการวิจัยรถไฟฟ้าดัดแปลงให้เกิดผลสำเร็จ
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าใช้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ พร้อมต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีศักยภาพของประเทศสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ รองรับนโยบายของรัฐบาล ที่สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคในอนาคต
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า “กฟผ. – สวทช. (i-EV)” ที่รับมอบมานั้น เป็นรถยนต์ยี่ห้อ “Nissan Almera” ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบคันที่ 1 ในโครงการวิจัยรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ระยะที่ 2 จากจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าฯ ทั้งหมด 4 คัน หลังประสบผลสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ “Honda Jazz” ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบรุ่นแรก จากโครงการวิจัยยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 1 และสามารถนำมาใช้งานได้จริงเมื่อปีที่ผ่านมา
โครงการวิจัยนี้มุ่งพัฒนาดัดแปลงรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานมานานแล้วให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ชุดอุปกรณ์ดัดแปลง (EV Kit) ซึ่งถูกพัฒนาต้นแบบ และกำหนดค่าอัตโนมัติต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถดัดแปลงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และมีต้นทุนดัดแปลงถูกลงไม่เกินคันละ 2 แสนบาท ไม่รวมแบตเตอรี่ ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้านำเข้าที่ปัจจุบันยังมีราคาสูงถึงคันละ 3 – 4 ล้านบาท
ในปี 2563 กฟผ. ตั้งเป้าพัฒนาให้เกิด “ศูนย์บริการดัดแปลงรถไฟฟ้า และถ่ายทอดเทคโนโลยี” พร้อมพิมพ์เขียวให้กับบริษัทรถยนต์ และอู่ติดตั้ง นำไปขยายผลเชิงพาณิชย์ให้มีระดับราคาที่ประชาชนเป็นเจ้าของได้
ดร.ณรงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า กฟผ. กับ สวทช. ตั้งใจร่วมกันที่จะส่งเสริมให้เกิดการวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (Modified EV) ใประเทศไทย
สำหรับการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้ สวทช. โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ได้ส่งมอบรถยนต์ “Nissan Almera” ขนาดเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ที่พัฒนาและดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีกำลังส่งออกสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 61.86 กิโลวัตต์ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มประมาณ 12 – 15 ชั่วโมง ณ เครื่องอัดประจุแบบ normal charge ที่พบได้ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดโครงการจะสามารถอัดประจุแบบเร็ว ด้วยไฟฟ้า 3 เฟส (fast charge) ใช้เวลาอัดประจุเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ในระยะทางประมาณ 150 – 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ด้วยการวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“สวทช. ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าของไทยผ่านการวิจัยและพัฒนามาอย่างเข้มข้น จนสามารถนำมาใช้งานได้จริงบนท้องถนน นอกจากนี้เรายังพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจการพัฒนารถยนต์ที่ใช้แล้วมาดัดแปลงเป็น “รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง” ต่อไป เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างประเทศและลดมลภาวะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”