Economics

‘การรถไฟฯ’ เดินหน้าฟ้องเอกชนบุกรุก ‘สถานีแม่น้ำ’

“การรถไฟฯ” เดินหน้าฟ้องเอกชนบุกรุก “สถานีแม่น้ำ” เรียกค่าเสียหาย 113 ล้านบาท ชี้ “เชลล์ – ปูนอินทรี – ยูนิคแก๊ส” หมดสัญญาแต่ไม่ย้ายออก

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อํานวยการด้านปฏิบัติการ ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะประธานคณะทํางานเฉพาะกิจเพื่อดําเนินการกับผู้บุกรุกหรือรุกล้ำที่ดินรถไฟ เปิดเผยหลังนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกสถานีแม่น้ำ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ในวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า มีผู้ประกอบการรายใหญ่บุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในอาคารและที่ดินบริเวณสถานีแม่น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตประมาณ 40 ราย คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 86 ไร่ จากพื้นที่บริเวณสถานีแม่น้ำทั้งหมด 260 ไร่ 1 งาน 9 ตารางวา

สถานีแม่น้ำ3

การรถไฟฯ จึงดำเนินคดีอาญากับผู้ประกอบการ ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐไปแล้วจำนวน 15 ราย และดำเนินคดีอาญา ข้อหาปลอมเอกสารสิทธิสัญญาเช่าที่ดินจำนวน 1 ราย รวมถึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งไปแล้ว 5 ราย คิดเป็นมูลค่า 23 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะทยอยฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากผู้บุกรุกรายใหญ่ให้ครบทั้งหมด

“บอร์ดให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกรายใหญ่ภายใน 3 เดือน หรือต้องแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนมกราคม 2562 โดยคณะทำงานฯ จะฟ้องขับไล่และฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง คิดเป็นวงเงินรวม 113 ล้านบาท คำนวณจากอัตราค่าเช่าที่ 825 บาทต่อตารางเมตรต่อปี ส่วนจะขับไล่ผู้ประกอบการออกพื้นที่ได้เมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม แต่ก็เชื่อว่าจะเคลียร์ได้หมดใน 2 ปี เพื่อเปิดให้เอกชนมาพัฒนาพื้นที่ต่อไป” นายสมยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันการรถไฟฯ ฟ้องคดีขับไล่ผู้บุกรุกรายใหญ่ได้สำเร็จแล้ว 1 ราย และเรียกค่าเสียหายเป็นวงเงิน 4.9 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดีได้เข้าปิดประกาศขับไล่ผู้บุกรุกรายดังกล่าวแล้วในวันนี้ (27 พ.ย.) จากนั้นจะให้เวลาผู้บุกรุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 15 วัน ถ้าหากไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทันที และหากขัดขวางเจ้าหน้าที่ก็จะถูกจับกุมต่อไป แต่เบื้องต้นผู้บุกรุกยินดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเตรียมย้ายออกจากพื้นที่แล้ว

สถานีแม่น้ำ4

ผงะ! ‘เชลล์-ยูนิคแก๊ส-ปูนอินทรี’ หมดสัญญาเช่า แต่ยังไม่ยอมย้ายออก

นอกจากนี้ มีผู้ประกอบการที่หมดสัญญาเช่าพื้นที่ แต่ยังไม่ได้ขนย้ายทรัพย์สินและบุคลากรออกจากที่ดินสถานีแม่น้ำจำนวน 6 ราย รวม 9 สัญญา โดยบางรายหมดสัญญาไปตั้งแต่ปี 2552 และบางรายเพิ่งหมดสัญญาในปีนี้

ทางคณะทำงานฯ จึงเตรียมแจ้งให้ฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯ ดำเนินการบอกเลิกสัญญาและรับมอบพื้นที่คืนจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการ โดยผู้ประกอบการต้องดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและย้ายออกภายใน 30 วัน มิเช่นนั้นการรถไฟฯ จะฟ้องคดีแพ่งขับไล่และเรียกค่าเสียหายต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ เช่น บริษัท โอ อาร์ ซี พรีเมียร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีดผสมเสร็จ, บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จํากัด, บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ จํากัด (มหาชน), บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ภายในเครือบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือปูนอินทรี เป็นต้น

S 71385114

คาดต้องย้ายท่อส่งน้ำมัน FPT

นายสมยุทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพื้นที่สถานีแม่น้ำเหลือผู้ประกอบการที่มีสัญญาเช่าอย่างถูกต้องและยังไม่หมดอายุสัญญา จำนวน 4 ราย โดยหลังจากหมดสัญญาเช่าแล้ว การรถไฟฯ จะไม่ต่อสัญญาให้ผู้ประกอบการจำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท ปตท.สผ. สยาม จำกัด, บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท กู๊ดทีม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด

แต่สำหรับกรณีของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT นั้น การรถไฟฯ อาจเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ให้ขยายอายุสัญญาออกไป เนื่องจากกิจการดังกล่าวสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องการส่งเสริมการขนส่งน้ำมันทางท่อและลดการขนส่งทางน้ำมันทางถนน รวมถึงท่อน้ำมันของ FPT ยังสร้างรายได้ให้พื้นที่สถานีแม่น้ำปีละ 40-45 ล้านบาท แต่ FPT อาจจะต้องรื้อย้ายท่อน้ำมันซึ่งอยู่กลางที่ดินสถานีแม่น้ำ ไปอยู่ริมพื้นที่ ติดกับบริษัท เชลล์ฯ แทน

S 71385112

ชุมชน “วัดช่องลม” 150 ครัวเรือนเข้าข่ายบุกรุกด้วย
นายสมยุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อจัดการกับผู้บุกรุกรายใหญ่เรียบร้อยแล้ว คณะทำงานฯ จะดำเนินการกับผู้บุกรุกสถานีแม่น้ำที่เป็นรายย่อยต่อไป โดยขณะนี้พบว่าผู้บุกรุกรายย่อยส่วนใหญ่อยู่ที่ชุมชนวัดช่องลม มีประมาณ 100-150 ครัวเรือน ซึ่งการรถไฟฯ จะไม่จ่ายค่ารื้อย้ายให้ผู้บุกรุกกลุ่มนี้ เพราะไม่จัดเป็นโครงการเร่งด่วนและไม่ได้มีการตั้งงบประมาณไว้เหมือนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่

Avatar photo