ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แสดงความไม่พอใจต่อเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) อย่างรุนแรง หลังค่ายรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐรายนี้ ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การลดคนงานจำนวนมาก และปิดโรงงานผลิตในอเมริกาเหนือ
ผู้นำสหรัฐบอกด้วยว่า จีเอ็มควรระงับการผลิตรถยนต์ในจีน แทนที่จะลดการผลิตในอเมริกาเหนือ
จีเอ็มประกาศเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.)ว่า จะลดแรงงานทั่วโลกลง 15% และหยุดการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนหนึ่งในโรงงานที่อเมริกาเหนือ 5 แห่ง ส่วนหนึ่งของแผนการลดค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ใช้น้ำมัน โดยจะทุ่มเททรัพยากรไปให้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และรถไฟฟ้า
บริษัทเปิดเผยว่า ได้เริ่มเสนอแผนการลาออกโดยสมัครใจให้กับพนักงาน 18,000 คน ในอเมริกาเหนือตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยโรงงาน 5 แห่ง ที่บริษัทจะหยุดการผลิตรถรุ่นใหม่รวมถึง โรงงานในแคนาดา ดีทรอยต์ และโอไฮโอ นอกเหนือจากอีก 2 แห่งในอเมริกา ภายในปี 2562 แต่ไม่ได้ให้กำหนดเวลาที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมีโรงงานอีก 2 แห่งนอกอเมริกาเหนือ ที่จะลดสายการผลิตลงภายในสิ้นปีหน้า เพิ่มจากโรงงานกุนซัน ในเกาหลีใต้ที่ปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
“เราไม่ชอบแบบนี้” ทรัมป์ประกาศร พร้อมระบุว่า ได้ต่อว่าไปอย่างรุนแรงในการสนทนากับแมรี บาร์รา ซีอีโอจีเอ็ม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.)
“ผมคุยกับเธอตอนที่ได้ยินข่าวเรื่องจะปิดโรงงาน ผมบอกว่า คุณรู้ไหม ประเทศนี้ทำอะไรให้กับเจนเนอรัล มอเตอร์ส ตั้งมากมาย ทางที่ดีควรที่จะกลับไปที่นั่น ที่โอไฮโอ ให้เร็วๆ”
ผู้นำสหรัฐ ยังให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า จีเอ็มควรยุติการผลิตรถยนต์ในจีน พร้อมเปิดโรงงานใหม่ในโอไฮโอ เพื่อทดแทนกับโรงงานที่บริษัทมีแผนจะยุติการผลิต
ทั้งนี้ จีเอ็ม และโฟล์คสวาเก้น ต่างเป็นค่ายรถยนต์รายใหญ่สุดในจีน มีโรงงานผลิตในเซี่ยงไฮ้ เหลียวหนิง และชานตง
ท่าทีของผู้นำสหรัฐ ตอกย้ำคำพูดของเขา ในการกล่าวปราศรัยที่เมืองยังส์ทาวน์ รัฐโอไฮโอ เมื่อปี 2560 ที่ให้คำมั่นว่า ตำแหน่งงานทั้งหมดจะกลับคืนมา
