“ตลาดพลู” ถือเป็นทำเลที่ตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยที่แท้จริง ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะ มอลล์ท่าพระ การเดินทางสะดวกสบาย เนื่องจากเป็นที่ตั้งของตัวสถานีบีทีเอสตลาดพลู และยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ สายสาทร-ราชพฤกษ์ หรือบีอาร์ที ถือเป็นโลเคชั่นที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย มีร้านอาหารชื่อดังมากมายบริเวณตลาดพลู เรียกได้ว่าแวดล้อมไปด้วยที่กินที่เที่ยว
ทั้งยังสามารถเดินทางไปสู่ใจกลางเมืองและแหล่งงาน ได้อย่างสะดวกสบาย และที่สำคัญราคาคอนโดมิเนียมยังถือว่าไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับบีทีเอสสถานีก่อนหน้า
ฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า พื้นที่โดยรอบสถานีบีทีเอสตลาดพลู ปัจจุบันแวดล้อมไปด้วยคอนโดมิเนียมกว่า 20,360 ยูนิต จากการสำรวจ ณ เดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่า ปัจจุบันมีโครงการคอนโดที่อยู่ระหว่างการขาย 7 โครงการรวม 4,219 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 11,808 ล้านบาท ขายไปแล้วประมาณ 3,459 ยูนิต หรือคิดเป็น 82% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขายประมาณ 760 ยูนิต หรือคิดเป็น 18%
ราคาที่ดินปรับขึ้นเท่าตัวรับแนวรถไฟฟ้า
ปัจจุบันราคาที่ดินย่านตลาดพลู มีการเสนอขายกันอยู่ที่ตารางวาละ 2.5-3.5 แสนบาท มีการปรับกว่า 100% ก่อนที่รถไฟฟ้าบีทีเอสจะเปิดบริการ สำหรับผลตอบแทนจากการเช่าย่านนี้อยู่ที่ 4-5.5% ถือเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจ
จากการสำรวจพบว่า ราคาของคอนโดย่านดังกล่าว มีการปรับตัวขึ้นกว่า 110% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากอัตราการขายของทั้งตลาดที่อยู่ที่ 82% ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ที่ดินรอบๆ บีทีเอสตลาดพลูเป็นที่จับตามองของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์
ปัจจุบันพบว่า มีที่ดินขนาดใหญ่อีกกว่า 3 แปลง เริ่มมีการล้อมรั่วรอการพัฒนา และถูกจับจองโดยดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่อย่าง บมจ. แสนสิริ เตรียมพัฒนาโครงการ เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ ประมาณ 1,600 ยูนิต และล่าสุด บมจ.เอพี(ไทยแลนด์) อยู่ระหว่างเคลียพื้นที่แปลงใหญ่ ใกล้บีทีเอสตลาดพลู เพื่อนำมาพัฒนาโครงการคอนโดอีก 1 โครงการ หลังจากปิดการขายโครงการแอสปาย สาทร ท่าพระ
รวมถึง บมจ. ปริญสิริ ที่เพิ่งก่อสร้างคอนโดโครงการใหม่ บนทำเลย่านนี้เช่นเดียวกัน ส่งผลให้คอนโดย่านตลาดพลู จะมีการแข่งขันกันอย่างคึกคักในปีหน้า
สำหรับปัจจุบันคอนโดย่านตลาดพลู มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 7 โครงการ จำนวน 4,219 ยูนิต มูลค่าโครงการ 11,808 ล้านบาท ขายไปแล้วประมาณ 3,459 ยูนิต หรือคิดเป็น 82% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขายประมาณ 760 ยูนิต หรือคิดเป็น 18%
จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 7 โครงการ ประมาณ 4,219 ยูนิต พบว่า ผู้ประกอบการพัฒนาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนมากที่สุดถึง 3,061 ยูนิต หรือคิดเป็น 72.5% โดยรองลงมาเป็น รูปแบบ สตูดิโอ 748 ยูนิต หรือคิดเป็น 17.7% และ รูปแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปประมาณ 406 ยูนิต หรือคิดเป็น 9.6%
คอนโด 1 ห้องนอนขายดีที่สุด
ส่วนรูปแบบห้อง 3 ห้องนอนขึ้นไปของย่านตลาดพลู มีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น เป็นของโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู และปัจจุบันไม่มีหน่วยเหลือขายในตลาด
จากการสำรวจพบว่า รูปแบบ 1 ห้องนอน ขายได้มากที่สุด คือ ขายไปแล้วประมาณ 2,626 ยูนิต หรือคิดเป็น 85.7% จากอุปทานทั้งหมด 3,061 รองลงมาคือ รูปแบบ 2 ห้องนอนที่ขายไปแล้ว 335 ยูนิต หรือคิดเป็น 82.5% จากอุปทานทั้งหมด 406 ยูนิต
จากข้อมูลพบว่า คอนโดที่อยู่ระหว่างการขายย่านตลาดพลู ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-2.25 ล้านบาท มากที่สุดที่ 1,002 ยูนิตหรือคิดเป็น 23.7% รองลงมาคือระดับราคา 3-5 ล้านบาท ที่ประมาณ 846 ยูนิต หรือคิดเป็น 20.0% และ ระดับราคา 2.5-3 ล้านบาท ประมาณ 772 ยูนิตหรือคิดเป็น 18.3%
ในช่วงระดับราคา 1.75-2 ล้านบาท เป็นช่วงราคาที่ขายดีที่สุด และไม่มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาด รองลงมาคือระดับราคา 2.5-3 ล้านบาท ประมาณ 94.3% และระดับราคา 2.25-3 ล้านบาท ประมาณ 93.8%