สหรัฐสั่งปิดด่านชายแดนเม็กซิโก พร้อมยิงแก๊สน้ำตาข้ามแดนเข้ามาในเม็กซิโก สกัดกลุ่มผู้อพยจากอเมริกากลางนับร้อยคน ที่พยายามข้ามชายแดนเข้ามา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำประเทศ ประกาศไม่ปล่อยให้กลุ่มผู้อพยพเข้าประเทศมาง่ายๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้การสัญจรไปมาที่ด่านซาน อิซิโดร ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างเมืองซานดิเอโก สหรัฐ กับเมืองติฮัวนา ของเม็กซิโก หยุดชะงักลงหลายชั่วโมง เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าผ่านด่าน ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดผ่านแดนที่มีการจราจรคับคั่งที่สุด
หลังเกิดเหตุ นายอัลฟอนโซ นาวาเรเต รัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโก กล่าวหาผู้อพยพบางรายว่า พยายามที่จะข้ามแดนจากติฮัวนาเข้าไปในสหรัฐ ด้วยวิธีการที่รุนแรง พร้อมประกาศที่จะเนรเทศคนเหล่านี้
เช่นเดียวกับนางเคิร์สเจน นีลเซน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ที่กล่าวหากลุ่มผู้อพยพว่า พยายามที่จะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนสหรัฐ ด้วยการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่พวกเขา ส่วนสำนักงานป้องกันชายแดน และศุลกากรสหรัฐ แถลงว่า เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา เพื่อสลายฝูงชน เพราะเสี่ยงต่อความปลอดภัย
ผู้อพยพเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งในคาราวานผู้อพยพราว 5,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวฮอนดูรัส และพากันมารวมตัวที่เมืองติฮัวนาด้วยความหวังที่จะข้ามแดนเข้าไปในสหรัฐได้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ส่งกำลังทหารราว 9,000 คน เข้าประจำการบริเวณชายแดน เพื่อให้การสนับสนุนสำนักงานป้องกันชายแดน และศุลกากรสหรัฐ ในการรับมือกับเรื่องดังกล่าว