‘คาร์ลอส โกสน์’ ประธานกรรมการนิสสัน มอเตอร์ ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ผู้ถูกจับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 พ.ย.) ในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการรายงานรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง และประพฤติผิดทางการเงิน ซึ่งในข้อกล่าวหาหลังนี้ รวมถึง การนำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว ทั้งซื้อบ้านหรู และพาครอบครัวไปพักผ่อนวันหยุด
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า โกสน์นำเงินบริษัทไปซื้อบ้านหรู 2 หลัง ผ่านทางหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ในบริติช เวอร์จิน ดินแดนที่ได้ชื่อว่า แหล่งสวรรค์สำหรับการหลบเลี่ยงภาษี
บ้านหรูของโกสน์ ในบราซิล และเลบานอน ทำให้นิสสันต้องจ่ายเงินโดยรวมมากกว่า 2,000 ล้านเยน หรือเกือบ 600 ล้านบาท แต่โอนให้กับผู้บริหารรายนี้โดยที่เขาไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเองแม้แต่น้อย
แหล่งข่าวระบุว่า การซื้อบ้านหรูข้างต้นดำเนินการผ่าน “ซี-อา แคปิตอล” หน่วยงานในเนเธอร์แลนด์ ที่ก่อตั้งขึ้นราวปี 2553 ด้วยเงินลงทุนราว 6,000 ล้านเยน ซึ่งเป้าหมายของการก่อตั้งบริษัทนี้ คือ การเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ
แต่เงินลงทุนบางส่วน กลับถูกถ่ายโอนไปยังบริษัทลูกของซี-อา แคปิตอล ที่ก่อตั้งขึ้นบนหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน โดยหนึ่งในบ้านหรูที่ซื้อให้กับโกสน์นั้น เป็นคอนโดมิเนียมติดชายหาดโคปาคาบานาท ในนครริโอ เด จานิโร แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของบราซิล ซึ่งสินทรัพย์นี้เคยเป็นของเพื่อนโกสน์มาก่อน และตัวเขาเองเป็นผู้เจรจาในเรื่องราคา และเงื่อนไขในการซื้อขาย
หน่วยงานของซี-อาในบริติช เวอร์จิน จ่ายเงินไปมากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ สำหรับคอนโดมิเนียมนี้ เมื่อปี 2554 ซึ่งรวมถึง ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งด้วย แต่ถูกส่งมอบให้กับโกสน์โดยไม่ได้คิดเงินแต่อย่างใด
ซี-อา แคปิตอล ยังตั้งบริษัทลูกอีกแห่งหนึ่งที่บริติช เวอร์จิน เพื่อซื้อบ้านพักอีกหลังหนึ่งราคา 8.8 ล้านดอลลาร์ ในย่านหรูหราของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน และเป็นบ้านที่โกสน์เลือกซื้อด้วยตัวเอง โดยเขาเคยใช้เวลาในวัยเด็กอยู่ที่เมืองนี้ แต่กรุงเบรุตไม่ได้เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของนิสสันแต่อย่างใด
แหล่งข่าวระบุว่า เมื่อมีการตัดสินใจในเรื่องอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้เกิดขึ้น ประธานกรรมการนิสสัน จะมีคำสั่งผ่าน “เกร็ก เคลลีย์” กรรมการผู้จัดการ ที่โดนจับกุมพร้อมกับเขา ไปยังผู้บริหาร 2 คน คือ รองประธานบริหารอาวุโส ที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวญี่ปุ่น ผู้ที่จะเข้ามาจัดการเรื่องเอกสาร
อย่างไรก็ดี เป็นที่เชื่อกันว่า ผู้บริหารทั้ง 2 คนนี้ น่าจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของอัยการญี่ปุ่น แลกกับการต่อรองคำรับสารภาพ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้รับโทษเบาลง
นอกจากนี้ บ้านพักของโกสน์ ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส และกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ก็อาจจะใช้เงินของนิสสันบางส่วนในการจ่ายค่าเช่า หรือค่าใช้จ่ายภายในบ้านด้วย ซึ่งนิสสันเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของผู้บริหารรายนี้ รวมถึง การรายงานรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง ถ่ายโอนเงินลงทุน และใช้จ่ายเงินบริษัทอย่างไม่ถูกต้อง
ที่มา: Nikkei Asian Review
- ขยายผลสอบ ‘คาร์ลอส โกสน์’ ซุกรายได้จากต่างประเทศ
- 3 พันธมิตรส่อแววระส่ำ กับอนาคตที่ไร้เงา ‘คาร์ลอส โกสน์’
- นิสสันไล่ออก ‘คาร์ลอส โกสน์’