ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เปิดซื้อขายในวันนี้ (21 พ.ย.) ท่ามกลางแรงกดดันจากการดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) จากความกังวลถึงภาวะซบเซาในภาคเทคโนโลยี และราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างมาก ทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุด ลดลง 123.02 จุด หรือ 0.57% มาอยู่ที่ 21,460.10 จุด ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.75 เยนต่อดอลลาร์ แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานนี้
หุ้นบลูชิพกลุ่มส่งออก โดนแรงเทขายอย่างหนัก ในวันนี้ โดยราคาหุ้นโซนี่ ร่วงลง 2.31% และพานาโซนิก ลดลง 1.80%
เช่นเดียวกับกลุ่มรถยนต์ ที่ยังเกาะติดข่าวดำเนินคดี “คาร์ลอส โกสน์” ประธานกรรมการนิสสัน และมิตซูบิชิ โดยโตโยต้า ปรับตัวลงมา 1.19% และฮอนด้า ลดลง 0.85% และมิตซูบิชิลดลง 1.32% ส่วนนิสสันขยับขึ้นเล็กน้อย 0.38% หลังเมื่อวานเจอแรงเทขายอย่างหนัก
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ดิ่งลงไปถึง 551.80 จุด หรือ 2.21% ปิดการซื้อขายที่ 24,465.64 จุด ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 119.65 จุด หรือ 1.70% มาอยู่ที่ 6,908.82 จุด และดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 48.84 จุด หรือ 1.82% ที่ 2,641.89 จุด
ตลาดสหรัฐเจอกับแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมกราคม ร่วงลงไปถึง 6.6% หรือ 3.77 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 53.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 4.26 ดอลลาร์ หรือ 6.4% ที่ 62.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นแอปเปิลที่ทรุดตัวลงเกือบ 5% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคำสั่งผลิตไอโฟนใหม่ 3 รุ่น
ขณะที่ผลประกอบการอันย่ำแย่ของทาร์เก็ต และโคห์ล คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ฉุดหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วยเช่นกัน
ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมานั้น มีสาเหตุมาจากผลประกอบการของตลาดหุ้นที่ย่ำแย่ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
สำหรับราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ปรับลงมา 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ที่ 1,221.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
