วันนี้ (20 พ.ย.) พรรคภูมิใจไทย จัดเสวนาวิชาการ Sharing Economy ศึกษากรณี Grab และ Airbnb ซึ่งเป็นแนวคิด “เศรษฐกิจแบ่งปัน” เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิมทั้ง รถยนต์และที่อยู่อาศัย มาใช้ประโยชน์ผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างรายได้ให้กับบุคคลต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากเติบโต
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย อดีตรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีระบบดิจิทัล กล่าวว่าในโลกยุค 4G ทำให้ผู้คนเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันประชากรทั่วโลก 7,000 ล้านคน ใช้งานมือถือกว่า 5,000 ล้านคน
ในประเทศไทยหลังจากมีการใช้ 4G ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีคนไทยเปิดใช้เบอร์มือถือ 130 ล้านเลขหมาย จากจำนวนประชากรไทย 70 ล้านคน จากการพัฒนาเทคโนโลยีและการเข้าถึงสมาร์ทโฟนของประชากรไทย ทำให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัล รูปแบบต่างๆ ที่สร้างอาชีพและรายได้ในโลกยุคใหม่
สำหรับแนวคิด Sharing Economy หรือ เศรษฐกิจแบ่งปัน ทั้ง “แกร็บ” ระบบขนส่ง และ “แอร์บีเอ็นบี” ด้านที่พัก ถือเป็นอีกรูปแบบการใช้เทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ทโฟน มาประกอบอาชีพใหม่ สร้างรายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างรายได้ และสนับสนุนเศรษฐกิจกลุ่มฐานราก
“แชริ่ง อีโคโนมี่ เป็นแนวคิดที่ทำให้เกิดความร่วมมือทำงานของแพลตฟอร์มต่างๆ กับคนทั่วไป ส่งเสริมการสร้างอาชีพใหม่ระดับไมโคร ที่สามารถสร้างแหล่งรายได้อีกทาง”
ปัจจุบันหลายประเทศมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริม “แชริ่ง อีโคโนมี่” เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ เพราะเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ จะเกิดจากคนตัวเล็กๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสร้างโอกาสและอาชีพใหม่ ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้เศรษฐกิจฐานราก และภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในโลกยุคใหม่
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แกร็บ” เป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเจ้าของรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่มีใจรักบริการให้มีโอกาสสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ ปัจจุบันแกร็บให้บริการใน 8 ประเทศ กว่า 200 เมือง ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าไปให้บริการ มีกฎหมายรองรับการดำเนินอย่างถูกต้อง
รูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปันของแกร็บ ซึ่งเป็นระบบขนส่ง จะช่วยให้เจ้าของรถ มีโอกาสสร้างรายได้เสริม ขณะที่ผู้ใช้บริการมีทางเลือกการใช้บริการขนส่งมากขึ้น ที่ผ่านมาแกร็บ ได้เข้าไปช่วยรองรับระบบขนส่งในการจัดอีเวนท์ขนาดใหญ่ที่มีระบบขนส่งไม่เพียงพอ เช่น การแข่งขัน โมโจ จีพี ที่บุรีรัมย์ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาจราจร จากการลดจำนวนผู้ใช้รถยนต์ โดยเลือกใช้บริการผ่านแกร็บ
นายสาโรจน์ อุ่นวัฒนนุกุล Airbnb Thailand Super Host กล่าวว่าปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้สมัครให้บริการที่พักกับ “แอร์บีเอ็นบี” ประมาณ 1.7 ล้านราย ซึ่งกระจายตัวอยู่ในทุกชุมชน ทุกจังหวัด เป็นช่องทางสร้างรายได้จากที่พักอาศัยเดิม ซึ่งการมีที่พักให้เลือกใช้บริการในชุมชนต่างๆ และสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แพลตฟอร์ม “แอร์บีเอ็นบี” เป็นอีกช่องทางการหารายได้ให้กับเจ้าของที่พัก ซึ่งไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เพราะโรงแรมขนาด 40 ห้อง ต้องใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านบาท แต่แอร์บีเอ็นบี สามารถใช้ที่พักของแต่ละคนมาสร้างรายได้ในรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปันได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
พบว่าอัตราการใช้บริการที่พักแอร์บีเอ็นบี ในประเทศไทยอยู่ที่ 3.3 คืนต่อปีต่อผู้ให้บริการ สร้างรายได้ 75,000 บาทต่อปีต่อราย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าแนวคิดการผลักดันเศรษฐกิจแบ่งปันให้เกิดขึ้นในประเทศไทย พรรคได้ศึกษาแนวทางไว้แล้ว เช่น การใช้บริการ “แกร็บ” เสนอแก้ไข พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และบริการ “แอร์บีเอ็นบี” เสนอแก้ไข พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ.2547 ซึ่งหากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการให้มีการแก้ไขเรื่องดังกล่าวสามารถร่วมกันเสนอแนวทางไปยังกระทรวงที่รับผิดชอบ เพื่อให้พิจารณาแก้กฎระเบียบต่างๆ ได้เช่นกัน
“พรรคภูมิใจไทยจะผลักดันระบบเศรษฐกิจแบ่งปันให้เกิดเป็นรูปธรรมและดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ของประชาชนและเป็นทางเลือกของผู้ใช้บริการ”
จากการศึกษาแพลตฟอร์มแกร็บ พบว่าสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 15,000 บาทต่อเนื่อง ขณะที่แอร์บีเอ็นบี ปีที่ผ่านมาผู้ให้บริการที่พักในประเทศไทยสร้างรายได้รวม 7,000-8,000 ล้านบาท
