สยามสินธร บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งล่าสุดกำลังพัฒนาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯแปลงใหญ่เนื้อที่กว่า 56 ไร่ บริเวณซอยหลังสวน และซอยต้นสน ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางเมือง ถูกนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ “สินธร วิลเลจ” มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมพักอาศัย 5 อาคาร โรงแรม 3 แห่ง ศูนย์ค้าปลีก 1 แห่ง รวมเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 9 อาคาร ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาในปัจจุบัน
ล่าสุดสยามสินธร ได้จับมือพันธมิตรโรงแรมชื่อดังระดับโลก “เคมปินสกี้” เข้ามาร่วมให้บริการที่พักอาศัย “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธรเคมปินสกี้” คอนโดแห่งใหม่ ในโครงการสินธร วิลเลจ รวมถึง โรงแรมระดับ 5 ดาว “สินธร เคมปินสกี้” ซึ่งจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2563
ลักษณ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสินธร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับ เคมปินสกี้ (Kempinski) แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก เพื่อนำบริการระดับเวิลด์คลาสจากเคมปินสกี้ มาบริหารโครงการที่พักอาศัยโครงการใหม่ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้” พื้นที่รวมกว่า 3 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ภายใต้พื้นที่โครงการ “สินธร วิลเลจ”
“เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้” เป็นโครงการที่พักอาศัยแบบสิทธิการเช่าซื้อ 30 ปี (Lease Hold) พร้อมทางเลือกต่อสัญญาเพิ่ม 30 ปี เป็นอาคารความสูง 34 ชั้น จำนวนห้องชุด 225 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 98 – 513 ตารางเมตร แบ่งเป็นขนาด 1 – 4 ห้องนอน และเพ้นท์เฮ้าส์ ราคาตั้งแต่ 11-150 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ 2.7 แสนบาท
“ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของแบรนด์เคมปินสกี้ เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะมียอดขาย 30% ภายในสิ้นปีนี้” นายชลาลักษณ์ กล่าวและว่า เคมปินสกี้จะมาเสริมจุดแข็งให้กับโครงการเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ ที่นอกจากอยู่บนทำเลที่ดี พัฒนาโครงการอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังมีบริการระดับเวิลด์คลาสจากเคมปินสกี้ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีส่วนของโรงแรมระดับ 5 ดาว “โรงแรมสินธร เคมปินสกี้” จำนวน 280 ห้องที่พร้อมให้บริการด้านต่างๆ กับลูกบ้านของโครงการฯ ด้วย เช่น เชฟจากโรงแรม ที่จะมาทำอาหารมื้อสำคัญกับลูกบ้าน, เทรนเนอร์ฟิตเนส, ผู้ช่วยส่วนตัว, บริการดูแลเด็ก, บริการจัดหาที่พักอาศัย, บริการดูแลที่พักอาศัย เป็นต้น
นายชลาลักษณ์ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของโครงการเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ เป็นกลุ่มคนที่ต้องการที่พักอาศัยใจกลางเมือง ที่มีบริการระดับเวิลด์คลาส กลุ่มนักลงทุน กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย ซึ่งการออกแบบของโครงการฯ ได้คำนึงถึงการอยู่อาศัยจริงเป็นหลัก เลือกใช้วัสดุที่นอกจากความสวยงาม ยังตอบสนองภาพลักษณ์ระดับลักซัวรี่ คุณภาพและความคงทนในระยะยาว โดยปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4 ปี 2562
ที่พักหรูใจกลางเมืองยังเป็นที่ต้องการของตลาด
ผู้บริหารสยามสินธร ยังกล่าวถึงภาพรวมตลาดที่พักอาศัยระดับลักซัวรี่ บนทำเลศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD : Central Business District ว่ายังมีความต้องการสูง เนื่องจากมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย ที่มองหาโครงการที่อยู่อาศัยในเมือง และตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิต รวมถึงที่ดินในย่านดังกล่าวมีเหลือไม่มาก และราคาที่ดินปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงมีโครงการระดับลักซัวรี่เข้าสู่ตลาดไม่มากนัก
ขณะที่ตลาดที่พักอาศัยแบบสิทธิการเช่า (Lease Hold) จะเป็นเทรนด์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง เพราะราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับที่ดินใจกลางเมืองที่สามารถพัฒนาได้มีน้อยลง โครงการที่พักอาศัยแบบสิทธิการเช่าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะระดับราคาที่ถูกกว่าที่พักอาศัยฟรีโฮลด์ (ขายกรรมสิทธิ์) แต่อยู่ในทำเลที่มีคุณภาพเหมือนกัน
นายสืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ สยามสินธร กล่าวว่า โครงการเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ ที่เปิดตัวล่าสุดในราคา 2.7 แสนบาท/ตารางเมตร สำหรับสัญญาแบบสิทธิการเช่า ถือว่าต่ำกว่าราคาตลาดคอนโดแบบขายกรรมสิทธิ์ 30-40%
โดยราคาตลาดคอนโดย่านนี้จะอยู่ที่กว่า 5 แสนบาท/ตารางเมตร จึงถือเป็นอีกทางเลือกของการลงทุน เพราะหาซื้อไว้แล้วนำมาปล่อยเช่า จะได้ระดับราคาเดียวกับคอนโดแบบขายกรรมสิทธิ์ เท่ากับผู้ซื้อได้กำไรทันที 30-40% ดังนั้นโอกาสของโครงการนี้ นอกจากเพื่ออยู่อาศัยเอง การซื้อเพื่อลงทุนก็น่าสนใจ
ที่ผ่านมาทางบริษัทเปิดคอนโดในโครงการ “สินธร วิลเลจ” ไปแล้ว 3 โครงการได้แก่ สินธร เรสซิเดนซ์, สินธร ต้นสน, และสินธร ลุมพินี ซึ่งมียอดขายไปแล้ว 80-85% โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อเป็นคนไทยกว่า 90% โดยโครงการแรกๆ เปิดขายที่ราคาเฉลี่ยราว 2.1 แสนบาท/ตารางเมตร
นอกจากนี้จะมีการพัฒนาโครงการคอนโดโลวไรส์ ความสูง 8 ชั้น ซึ่งปรับแผนมาจากเมดิคัลเซ็นเตอร์ในโครงการสินธร วิลเลจ ในคอนเซ็ปท์เวรี่ไพรเวท จำนวน 32 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการคอนโดในชั้นที่ไม่สูงมาก ออกมาขายในปีหน้า และจะมีโรงแรมคิมป์ตัน ในเครือไอเอชจี มาเปิดบริการด้วย
ส่วนราคาคอนโดปรับขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 แสนบาทต่อตารางเมตร ในทำเลใจกลางย่านธุรกิจ ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มสำหรับการลงทุน แม้จะเป็นสัญญาเช่า 30 ปีแต่มั่นใจว่าการปรับขึ้นของราคาอสังหาฯทำเลนี้ ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และที่สำคัญไม่มีที่ดินแปลงว่างเปล่าที่จะนำมาพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในอีกในปัจจุบัน
