COLUMNISTS

‘คอนโด’ โตไม่หยุดต.ค.เดือนเดียวเปิด 6.9 พันยูนิต

Avatar photo
160

แม้จะมีปัจจัยแง่ลบ ออกมากระทบตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งเรื่องมาตรการคุมเข้มสินเชื่อการซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 ที่จะประกาศใช้วันที่ 1 เมษายน 2561 รวมทั้งภาวะตลาดที่ยังชะลอตัวกับภาวะเศรษฐกิจ แต่การเปิดตัวใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียมยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

นำเสนการขายด้วยช่องทางที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ มากกว่าช่วงต้นปี โดยส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนงานที่แต่ละบริษัทวางไว้ตั้งแต่ต้น ภาพการแข่งขันโปรโมชั่นรุนแรงของผู้ประกอบการคอนโดจึงมีให้เห็นตามข้อมูลที่ได้นำเสนอไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

คอนโดมิเนียมใหม่ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสาย
ทำเลยอดนิยมคอนโดยังคงเป็น เส้นทางเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

มาดูข้อมูลล่าสุด การเปิดโครงการใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งรวบรวมโดย บจก.เอจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟรส์ หรือ AREA ระบุว่า ในเดือนตุลาคมโครงการอสังหาฯเปิดตัวกันกระฉูด ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวโครงการอย่างคึกคักก่อนสิ้นไตรมาส 3

โดยในเดือนตุลาคม มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 37 โครงการ 13,412 ยูนิต และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 45,055 ล้านบาท เฉลี่ยยูนิตละ 3.36 ล้านบาท

จำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนตุลาคมนี้ ยังคงเป็นอาคารชุดหรือคอนโด เช่นเดียวกับเดือนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนเปิดใหม่ดังนี้

  • คอนโดเปิดขาย 6,920 ยูนิต สัดส่วน 51.6%
  • ทาวน์เฮ้าส์ 5,648 ยูนิต สัดส่วน 42.1%
  • บ้านเดี่ยว 606 ยูนิต สัดส่วน 4.5% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

โดยทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ ในรอบนี้ คอนโดจะอยู่บริเวณส่วนต่อขยายเมือง และกรุงเทพรอบนอก ทาวน์เฮ้าส์จะตั้งอยู่ในทำเลคล้ายๆ กัน คือ ส่วนต่อขยายเมือง และกรุงเทพรอบนอก นอกจากนี้ก็จะตั้งอยู่ในเขตปริมณฑล และสำหรับบ้านเดี่ยวในรอบนี้เปิดขาย 4 โครงการ ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพรอบนอก และปริมณฑล

ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือคอนโด 24,425 ล้านบาท หรือราว 54.2% รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 16,555 ล้านบาท ราว 36.7% อันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 2,872 ล้านบาท ราว 6.4% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ

โดยภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2-3 ล้านบาท อาคารชุดส่วนใหญ่จะมีราคา 2-3 ล้านบาท

หากพิจารณาระดับราคาขายจะพบว่า

  • ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 2,334 ยูนิต หรือ 17.4% มีมูลค่าโครงการ 3,530 ล้านบาท หรือ 7.8%
  • ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 4,546 ยูนิต หรือ 33.9% มีมูลค่าโครงการ 11,835 ล้านบาท หรือ 26.3%
  • ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 5,380 ยูนิต หรือ 40.1% มีมูลค่าโครงการ 19,871 ล้านบาท หรือ 44.1%)
  • ระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปมีจำนวน 1,152 ยูนิต หรือ 8.6% และมีมูลค่าโครงการ 9,820 ล้านบาท หรือ 21.8% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้

ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 9 บริษัท คือ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน), บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน), บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน), บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), และบริษัท เอสซีแอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ไลฟ์ อโศก ไฮป์ Life Asoke Hype
โครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์

โครงการขนาดใหญ่ที่สุดในเดือนนี้คือ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (Life Asoke Hype) ที่ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง โดย บจก.เอพี เอ็มอี 3 เป็นอาคารชุด 40 ชั้น โดยมีมูลค่าโครงการ 5,226 ล้านบาท จำนวน 1,235 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุดที่ขายในราคา 3.5 ล้าน 4.3 ล้าน และ 6.8 ล้านบาทต่อยูนิตโดยประมาณ นอกจากนี้ ยังมีโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ ที่เป็นอาคารชุดสูง 32 ชั้น ซึ่งมีมูลค่า 4,292 ล้านบาท มีทั้งหมด 949 หน่วย

จะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดคอนโด ยังคงเติบโตไม่หยุดและยังคงเดินหน้าแข่งขัน กันอย่างดุเดือด แม้จะมีมาตรการเข้มงวดของธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมากำกับดูแล แต่ก็ไม่อาจทำให้บรรยากาศเปิดโครงการใหม่ชะลอตัวลงไปแต่อย่างใด