ตลาดสหรัฐเปิดซื้อขายวันนี้ (19 พ.ย.) ปรับตัวลดลง ภายใต้การนำของแอปเปิล ที่ราคาหุ้นร่วงลงฉุดให้หุ้นกลุ่มเทคโนดลยีเดินสู่ขาลง ประกอบกับสัญญาณความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นในสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ยิ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 237.79 จุด หรือ 0.94% มาอยู่ที่ 25,175.43 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับลงมา 23.96 จุด หรือ 0.88% ที่ 2,712.31 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 127.58 จุด หรือ 1.76% ที่ 7,120.30 จุด
ราคาหุ้นแอปเปิล ปรับลดลง 2.5% หลังมีรายงานว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทสั่งลดการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทั้ง 3 รุ่น ซึ่งตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาหุ้นของแอปเปิลร่วงลงมาแล้ว 11.6% จากการที่บริษัทคาดการณ์ยอดขายช่วงเทศกาลปลายปี ในไตรมาสสุดท้ายของปีต่ำกว่าที่คาดไว้
หุ้นกลุ่มซัพพลายเออร์ของแอปเปิลได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เช่นกัน โดยราคาหุ้นของลูเมนตัม โฮลดิ้งส์ อิงค์ ยูนิเวอร์แซล ดิสเพลย์ คอร์ป เซอร์คัส โลจิค อิงค์ และสกายเวิร์คส์ โซลูชัน อิงค์ ต่างปรับตัวลงมาระหว่าง 1.5-4.8%
ตลาดยังกังวลถึงสัญญาณความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้น หลังการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิค (เอเปค) ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล้มเหลวที่จะเห็นพ้องในการออกแถลงการณ์ร่วมเป็นครั้งแรก โดยมีประเด็นหลักในเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ
ยิ่งไปกว่านั้น นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยังประกาศในช่วงเวลาเดียวกันนั้นว่า สหรัฐจะไม่ยอมถอยในข้อขัดแย้งทางการค้าของ 2 ฝ่าย ทั้งอาจจะเพิ่มอัตราการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนขึ้นเป็น 2 เท่า จนกว่าจีนจะยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ ทำให้ความหวังเกี่ยวกับการคลี่คลายปัญหาในเรื่องนี้ มืดหม่นลง
