Properties

‘แมกโนเลีย’ จัดอีเวนต์แสงสี-โรดโชว์ดึงต่างชาติ

แมกโนเลียฯ เดินหน้าแผนตลาดส่งท้ายปี ไฮไลท์ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” ลุยจัดกิจกรรมแสงสี “Beautiful Bangkok 2019 : The Symphony of Happiness” บนอาคาร 60 ชั้น ดึง 7 ศิลปินไทยระดับสากล ร่วมสร้างสรรค์โชว์ ระหว่าง 18-31 ธันวาคมนี้ พร้อมดึงคนมีส่วนร่วมผ่านเฟซบุ๊ค ส่วนด้านการขายเผยมียอดแล้ว 80% ที่เหลือเตรียมเดินสายโรดโชว์ฮ่องกง-ไต้หวัน หวังอานิสงก์งานแสงสีสร้างการรับรู้ตลาดต่างชาติ

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์2

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า กิจกรรมการตลาดในช่วงสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยร่วมกับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ เป็นงานโชว์แสงสีสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างอิมเมจ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

โดยปีนี้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จัดกิจกรรมแสงสีขึ้นภายใต้ธีม “Beautiful Bangkok 2019 : The Symphony of Happiness” ซึ่งจะเป็นการโชว์แสงสีบนอาคาร “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” ที่ตั้งอยู่บริเวณราชประสงค์ ด้วยเทคโนโลยี  3D Mapping เพื่อร่วมเฉิมฉลองกับทำเลช้อปปิ้งราชประสงค์ สำหรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยจะเริ่มโชว์ตั้งแต่วันที่ 18-31 ธันวาคมนี้ วันละ 7 รอบ ต้งแต่ 19.20-21.20 น. และวันที่ 31 ธันวาคมเพิ่มรอบส่งท้ายปีเก่าเวลา 23.55 น.

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิญชวนให้คนร่วมสนุก ด้วยการโพสต์ภาพความสุขพร้อมชื่อเล่น บนเฟซบุ๊คส่วนตัวพร้อมพิมพ์ @MQDC ตั้งค่า Public และติด #Beautifulbangkok  สามารถส่งภาพร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 ธันวาคม ภาพทีไ่ด้รับการคัดเลือกจะไปปรากฎในการแสดงแสงสีบนอาคารด้วย

แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด3
ตัวอย่างการแสดงแสงสีโครงการ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” เมื่อปีที่แล้ว

การแสดงดังกล่าว เป็นความร่วมมือของบริษัทแมกโนเลียฯ กลุ่มผู้ประกอบวิสาหกิจย่านราชประสงค์ และศิลปินไทยชั้นนำที่มีผลงานเป็นที่รู้จัก ในระดับอินเตอร์เนชั่นแนบ ประกอบด้วย P7, MUEBON, PAI LACTOBACILLUS, TIKKYWOW, KEEP YOUR EYES ON team, TRK and BONUS TMC ซึ่งการแสดงด้วยเทคโนโลยี 3D Mapping นี้จะเป็นการเติมเต็มทัศนียภาพของย่านราชประสงค์ ย่านราชดำริ ให้เป็นเดสทิเนชั่นสำหรับเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ เป็นการสร้างแบรนด์ และสร้างการรับรู้สู่ตลาด ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

7 ศิลปิน
ความร่วมมือของ 7 ศิลปินที่มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมแสงสีในงาน

สร้างการรับรู้ก่อนเดินสายโรดโชว์

โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ นายวิสิษฐ์ กล่าวว่า จะเป็นการสร้างแบรนด์ที่สื่อถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ ที่ทางบริษัทกำลังเตรียมเดินสาย โรดโชว์เพื่อนำเสนอขายโครงการ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” ห้องชุดส่วนที่เหลือ 20% หรือราว 60 ยูนิต มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้ปิดยอดขายโครงการไปแล้ว 80% โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าคนไทย 50% อีก 50% เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอเชีย ฮ่องกง ไต้หวัน แฃะสิงคโปร์

กลุ่มลูกค้าต่างชาติมีศักยภาพสูงบริษัทจึงเตรียมไปโรดโชว์ฮ่องกง-ไต้หวันเพื่อเร่งยอดขายที่เหลือ 20%

ผู้บริหารแมกโนเลีย ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับราคาขายโครงการ นับตั้งแต่เปิดตัวและเปิดขายช่วงต้นที่ราคาประมาณ 2 แสนบาทต่อตารางเมตร ล่าสุดได้มีการปรับราคาขายขึ้นมาเป็น 2.7 แสนบาท/ตารางเมตร หรือราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 20 ล้านบาท ถึงเพนท์เฮ้าส์ราคาประมาณ 80 ล้านบาท เพราะเป็นทำเลที่ไพร์มแอเรียจริงๆ ใจกลางย่านธุรกิจ

เป็นการขายด้วยสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี เนื่องจากที่ดินเป็นของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงต้องขายแบบ Lease Hold สัญญาเช่า 30 ปี (ขณะนี้เหลือ 28 ปี) จึงไม่มีข้อจำกัด สามารถขายให้ต่างชาติได้เต็มจำนวน และการขายแบบนี้ ก็เป็นที่คุ้นเคยของตลาดต่างชาติ ทั้งฮ่องกงและไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่เขาซื้ออสังหาฯแบบสัญญาเช่าระยะยาวอยู่แล้ว ทำให้ได้การตอบรับที่ดี

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าพื้นที่เหลือขาย 20% น่าจะขายได้หมดภายในไตรมาส 1-2 ปี 2562 ส่วนแผนงานภายในปีนี้ก่อนสิ้นปี คาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ เป็นคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้เช่นเดิม แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการดีลซื้อที่ดิน โดยคอนโด 2 โครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีมูลค่าราว 6,000-7,000 ล้านบาท

 

แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด8
ตัวอย่างห้องในโครงการ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด”

เผยปัญหาใหญ่ ‘หาซื้อที่ดินทำโครงการไม่ได้’

นอกจากนี้นายวิสิษฐ์ ยังกล่าวถึงมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่จะประกาศคุมการวางเงินดาวน์ 10-30% ของโครงการแต่ละกลุ่มว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดไฮเอ็นด์ และทางโครงการกำหนดให้ลูกค้าวางเงินดาวน์เฉลี่ยที่ 30% อยู่แล้ว จึงไม่น่ามีปัญหา

ส่วนพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ออกมาล่าสุดก็เช่นกัน ไม่น่าจะส่งผลกระทบเรื่องต้นทุนที่ดิน เพราะอัตราภาษีไม่ได้สูงมาก ยกเว้นที่ดินว่างเปล่า ซึ่งนายวิสิษฐ์ กล่าว่า ทางบริษัทไม่มีการสต็อกที่ดินเป็นแลนด์แบงก์ที่ดินว่างเปล่าในระยะยาวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นย่อมไม่กระทบกับภาษีตัวใหม่ที่จะใช้ในปี 2563

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารแมกโนเลีย กล่าวว่าสิ่งที่น่ากังวลและเป็นปัญหามากกว่า คือ การหาที่ดินแปลงที่เหมาะสม และนำมาพัฒนาโครงการได้ หายากขึ้นทุกที เพราะผู้ประกอบการต่างแย่งกันหาซื้อที่ดิน ยิ่งที่ดินในเมืองแข่งซื้อเพื่อสร้างโครงการ จนทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงมาก ส่งผลให้ราคาคอนโดช่วงหลังๆ ต้องปรับาคาขายไปค่อนข้างสูง ต้นทุนที่ดินแพงและมีจำกัด เป็นปัญหาที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

 

 

 

 

 

Avatar photo