ถนนทุกสายกำลังมุ่งสู่ถนนการเมือง นับถอยหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นเป้าหมายที่ทำพรรคการเมืองทั้งใหม่และเก่า เดินหน้าระดมทีมนักการเมือง ทั้งคนรุ่นใหม่ นักการเมืองหน้าเก่า และกลุ่มก้อนการเมืองเก่า-ใหม่ ต่างจัดทัพเตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
วันนี้ (18 พ.ย.) กลุ่มสามมิตรนำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร นำอดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส.การเมืองท้องถิ่น ประมาณ 60 คน มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)
ประกอบด้วย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากพรรคเพื่อไทย นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำนปช. นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคเพื่อไทย เป็นต้น โดยมีหัวหน้าพรรคพปชร.และเลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับ
นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสโจมตี ว่ากลุ่มสามมิตรรับใช้ทหาร ขอชี้แจงว่า เราเป็นพลเรือน ไม่ได้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของทหาร และการกลับมาเล่นการเมืองในรอบ 10 ปี ก็เพราะมีคนที่เราให้ความเคารพ และเคยทำการเมืองร่วมกันตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย(ทรท.) มาทาบทาม
อีกเหตุผลที่ทำให้เข้าร่วมกับพปชร. เพราะมองว่าถ้าไม่มีพรรคการเมืองใหม่ ก็จะเป็นเพียงการต่อสู้ของ 2 พรรคการเมืองใหญ่เท่านั้น หลังเลือกตั้งก็จะมีวิกฤติปัญหาทางการเมืองอีก ดังนั้นจึงออกมาในนามกลุ่มสามมิตรเมื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วจะไม่มีกลุ่มสามมิตรอีกต่อไป เราจะสลายกลุ่มสามมิตรในวันนี้เลย
ผูสื่อข่าวถามว่าทางกลุ่มพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ผู้บริหารจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ต้องเลือกบุคคลที่มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ทุ่มเทเพื่อประเทศชาติ ส่วนชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็น 1 ใน 3 ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ต้องถามผู้บริหารพรรค
สำหรับปัญหาพื้นที่ซับซ้อนของผู้สมัครส.ส. ที่มีปัญหากันก่อนหน้านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว ขอชี้แจ้งเสียงวิจารณ์ที่บอกว่ากลุ่มสามมิตรเป็นนักการเมืองรุ่นเก่านั้น ส่วนตัวอยากให้มองพรรคพปชร.ว่า มาจากทุกกลุ่มซึ่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคก็ถือว่าหน้าใหม่ ส่วนตัวเห็นว่า การเมืองควรจะผสมกันในทุกส่วน คำว่ารุ่นใหม่นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องของอายุ แต่อยู่ที่วิสัยทัศน์
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มสามมิตรที่เข้าร่วมกับพรรคพปชร.มีโอกาส เป็น ส.ส.ได้ทั้งหมด เพราะพรรคมีความพร้อมและมีนโยบายที่ดี เชื่อว่าถ้าผู้สมัครมีความขยัน ก็มีโอกาสชนะเลือกตั้งสูง ไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่มสามมิตร แต่ผู้สมัครในนามพรรคพปชร.ทั้งหมดมีโอกาสชนะเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นอดีตส.ส. หรือนักการเมืองหน้าใหม่ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ตนเห็นว่าพรรคนี้มีความพร้อมในหลายด้าน แต่ไม่อยากคาดการณ์ว่าจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ เพราะจะเหมือนการคาดเดา ส่วนพรรคพปชร.จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ไม่อยากพยากรณ์ล่วงหน้า
