Digital Economy

เปิดเทรนด์ช้อปปิ้งปลายปีสหรัฐ พบ ‘O2O – สั่งการด้วยเสียง’ มาแรง

อะโดบีคาดการณ์ช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้ยอดขายออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา จะสูงถึง 124 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณกว่า 4 ล้านล้านบาท) โดยถือเป็นยุคทองของผู้ค้าปลีกที่มีทั้งระบบออนไลน์ และหน้าร้าน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลจะสั่งซื้อออนไลน์หลังจากเดินมาชมสินค้าตัวจริงที่ร้านค้าก่อน ในจุดนี้อาจทำให้ร้านค้ามียอดขายทางออนไลน์สูงขึ้น 28% ส่วนการช้อปปิ้งด้วยเสียงกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

Adobe best day to buy

อาลีบาบาทำตัวเลขยอดขายมหึมาไปแล้วจากเทศกาล 11.11 สำหรับฟากอเมริกาถ้าไม่อยากยอมแพ้ก็ต้องหาตัวเลขอะไรดี ๆ มาบอกเล่าเช่นกัน ล่าสุด อะโดบี อะนาไลติกส์ (Adobe Analytics) ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี 2561 (1 พ.ย. ถึง 31 ธ.ค.) ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 14.8% และแตะระดับ 124.1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดค้าปลีกออฟไลน์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.7% และไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) จะสร้างสถิติใหม่ โดยเป็นวันที่มียอดช้อปปิ้งออนไลน์สูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดในช่วงปี ด้วยยอดขาย 7.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY)

ส่วนยอดขายในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16.5% โดยยอดขายอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เกือบหนึ่งในห้าดอลลาร์ในช่วงเทศกาลนี้จะถูกใช้จ่ายในช่วงระหว่างวันขอบคุณพระเจ้าและไซเบอร์มันเดย์ โดยยอดใช้จ่ายจะอยู่ที่ 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 19% ของยอดขายออนไลน์ทั้งหมด

ส่วนของขวัญที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ ทีวี 4K, คอนโซลและเกมวิดีโอย้อนยุค รวมถึงของเล่นต่างๆ เช่น Pomsies, Grumblies และ Fortnite Monopoly

Adobe Revenue for Key Days

ทั้งนี้ ผู้ค้าปลีกที่มีร้านค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์คาดว่าจะมียอดขายทางออนไลน์สูงกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ค้าปลีกที่ไม่มีหน้าร้านแบบออฟไลน์ โดยข้อมูลจาก Adobe Analytics คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าทางออนไลน์และเดินทางไปรับสินค้าจากที่ร้าน (buying online and picking up items in-store – BOPIS) เพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ โดยผู้ค้าปลีกทุกรายมียอด BOPIS เพิ่มขึ้น 119% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 และเพิ่มขึ้นกว่า 250% สำหรับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

จากผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกว่า 1,000 คนในสหรัฐฯ พบว่า เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) มีแผนที่จะเลือกดูสินค้าภายในร้าน แล้วค่อยสั่งซื้อทางออนไลน์ในภายหลัง โดยตัวเลขสัดส่วนดังกล่าวสูงถึง 58% สำหรับกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennial)

สำหรับเครื่องมือในการจับจ่ายใช้สอยนั้น รายงานจาก Adobe Analytics พบว่า การจับจ่ายผ่านสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าช่องทางเดสก์ท็อป โดย Adobe Analytics ให้เหตุผลว่า ขั้นตอนการชำระเงินมีประสิทธิภาพน้อยกว่า ส่งผลให้ยอดขายผ่านอุปกรณ์มือถืออยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการช้อปปิ้งผ่านแท็บเล็ตมีแนวโน้มลดลง โดยอยู่ที่ 8.8 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (ลดลง 30% ในช่วง 4 ปี) และคิดเป็นสัดส่วนเพียง 9.6% ของยอดขาย

636153275148200015 BlackFridayAFP

เทรนด์ช้อปปิ้งมาแรง

การช้อปปิ้งโดยใช้การสั่งงานด้วยเสียงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้บริโภค 21% ระบุว่าตนเองมีแผนที่จะทำการสั่งซื้ออีกครั้งสำหรับสินค้าที่ซื้อเป็นประจำ อะโดบีคาดว่าในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ ผู้บริโภคจะสั่งซื้อและส่งคืนสินค้าบ่อยครั้งมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ ของปี (5% และ 18% ตามลำดับ) และซื้อบริการเพิ่มมากขึ้น เช่น การล่องเรือและจองห้องพักโรงแรม ในวัน Cyber Monday นอกจากนี้ ผู้บริโภคที่อยู่บ้านในวันขอบคุณพระเจ้าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดย 60% ระบุว่าตนเองจะไม่เดินทางไปซื้อสินค้าตามห้างร้านต่างๆ ในวันขอบคุณพระเจ้า เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2559

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ Adobe Analytics พบว่า ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กแม้จะมีทราฟฟิคเพิ่มขึ้นจากการปรับอัลกอริธึม แต่การสั่งซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียจะลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีความไว้วางใจไม่มากเท่าในอดีตนั่นเอง นอกจากนี้ยังคาดว่าผู้บริโภคจะค้นหาไอเดียเกี่ยวกับของขวัญผ่านไซต์โซเชียลมีเดียลดลง 25% ด้วย

Avatar photo