Lifestyle

ระวัง!! ‘ไข้ปวดข้อยุงลาย’ ทำคนป่วยหนักกว่า 600 ราย

กรมควบคุมโรค ออกโรงเตือนประชาชนระวังป่วยด้วยโรค “ไข้ปวดข้อยุงลาย” ในพื้นที่ที่ยังมีฝนตกและมีน้ำท่วมขัง ชี้ปีนี้พบผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายแล้วกว่า 600 ราย แนะยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี และโฆษกและกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในช่วงนี้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมขังตามท้องถนน และภาชนะต่างๆ อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ทำให้ประชาชนเสี่ยงที่จะเป็นโรค “ไข้ปวดข้อยุงลายได้”

นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆ 1
นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ

สำหรับสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 พฤศจิกายน 2561 พบผู้ป่วยทั้งหมด 642 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 638 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับ คือ นราธิวาส 218 ราย สตูล 213 ราย สงขลา 157 ราย ตรัง 21 ราย และ ภูเก็ต 11 ราย

“โรคไข้ปวดข้อยุงลาย” หรือ “โรคชิคุนกุนยา” เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาที่มี “ยุงลายสวน” และ “ยุงลายบ้าน” เป็นพาหะนำโรค พบได้ทุกกลุ่มอายุ จะมีอาการคล้ายไข้เลือดออก แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก

ยุง
ภาพจากกรมควบคุมโรค

ลักษณะอาการ คือ มีไข้ ออกผื่น และมีอาการปวดข้อ ข้อบวมแดง เริ่มจากบริเวณข้อมือ ข้อเท้า และข้อต่อแขนขา อาการจะหายภายใน 1-12 สัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อเกิดขึ้นได้อีกภายใน 2-3 สัปดาห์ต่อมา หากประชาชนมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ประกอบด้วย

1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง

2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

3.เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่

โดยทั้งเรื่องดังกล่าวจะสามารถป้องกันได้ 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา  3.ไข้ปวดข้อยุงลาย

Avatar photo