อสมท รายงานงบไตรมาส 3 ปี 61 แนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ขาดทุนลดลง 20% ชี้ผลดำเนินงานส่งสัญญาณฟื้นตัว ปีหน้าเร่งพัฒนาที่ดิน 3 แปลง
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท รายงานงบการเงิน ไตรมาส 3 ปี 2561 (ก.ค.-ก.ย.) มีรายได้รวม 638 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ 63 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 พบว่าการดำเนินงานมีแนวโน้มดีขึ้น โดยขาดทุนลดลง 20%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2561 มีดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ มีรายได้ 199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ 185 ล้านบาท ลดลง 3% ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (BNO) มีรายได้ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ราว 6% ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นของค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวก
หลังจากที่ บมจ.อสมท มีข้อยุติจากการเจรจากับลูกค้าที่ค้างชำระการใช้บริการโครงข่ายฯ เป็นผลให้ลูกค้ายังยืนยันที่จะให้บริการโครงข่ายฯ ของ บมจ.อสมท ต่อไป และเริ่มมีการชำระหนี้ค้างเก่าเข้ามา ทำให้รายการบัญชีหนี้สงสัยจะสูญก็จะลดลงตามเช็คที่ถึงกำหนดชำระ
ขณะเดี่ยวกันธุรกิจใหม่ มีรายได้ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 17% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ถึง 41% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ จากการผลิตสื่อโซเชียล มีเดีย ทาง Line Official Account สำหรับรายได้จากธุรกิจด้านดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ www.mcot.net หรือแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น ยูทูบ และ เฟซบุ๊ก บมจ. อสมท เร่งพัฒนาและ ต่อยอดใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการสร้างรายได้จากการนำคอนเทนท์ที่บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มต่างๆ
สำหรับแผนงานในปี 2562 อสมท จะเน้นนโยบายการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ด้วยการเร่งรัดสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่มีอยู่ทั้ง 3 แปลง โดยเฉพาะที่ดินย่านรัชดาเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อได้ ขณะนี้ได้จัดจ้างที่ปรึกษาในการจัดทำรายงานความคุ้มค่าของที่ดินแล้ว และจะมีการเข้ากระบวนการจัดทำ Investor Feedback และ กระบวนการ PPP ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มคอนเทนท์จากพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเปิดตัวผังรายการของ ช่อง 9 MCOT HD 30 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้ ส่วนสื่อวิทยุเริ่มพัฒนาสู่ธุรกิจ Digital Platform โดยเร่งนำคอนเทนท์ลงแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อขยายฐานผู้ฟังให้มากขึ้น ควบคู่กับการบริหารต้นทุนด้านการบริหารจัดการและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น