แอลพีเอ็น เดินหน้าโรดแมป “Year of Change” ขยายฐานรายได้สู่ Recurring Income สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ความยั่งยืน นำร่องด้วยการเปิด “ลุมพินี ลีฟวิ่ง พลัส รังสิต-คลอง1” คอนโดปล่อยเช่าเจาะลูกค้ากลุ่ม White collar
“Year of Change ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง” คือ ยุทธศาสตร์ที่ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) สื่อมายังตลาดตั้งแต่ต้นปี 2561 การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคือการเพิ่มรายได้ ที่ปรับจากธุรกิจหลักสร้างเพื่อขายอย่างเดียว มาเป็นการสร้างเพื่อ “ปล่อยเช่า” ในบางโครงการ เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจ และเพิ่มโอกาสผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัย ในทำเลและราคาที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิด “ชุมชนเมืองน่าอยู่”
เปิดเช่า ‘ลุมพินี ลีฟวิ่ง พลัส รังสิต-คลอง1′
โครงการขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยคอนเซ็ปท์ “เมืองในเมือง” ของโครงการ “ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง1” คอนโด 8 ชั้น 50 อาคาร รวม 10,000 ยูนิต เป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ บนเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ พร้อมคอมมูนิตี้ มอลล์ Market Place ด้านหน้าโครงการ ใกล้จุดเชื่อมต่อฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ได้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส โดย 2 เฟสแรก 7,000 ยูนิตพัฒนาเพื่อขาย ณ สิ้นกันยายน 2561 มียอดขายกว่า 80% กว่า 5,000 ยูนิต ในราคาขายเริ่มต้น 7 แสนบาทต่อยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 21.50-26.00 ตร.ม.
ส่วนเฟสที่สาม 16 อาคาร อาคารละ 197 ยูนิต รวม 3,152 ยูนิต หรือราว 30% แอลพีเอ็นได้เริ่มกลยุทธ์ปล่อยเช่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ภายใต้ชื่อ “ลุมพินี ลีฟวิ่ง พลัส รังสิต-คลอง1” เป็นโครงการนำร่อง โดยนำห้องชุดสตูดิโอขนาด 21.50 ตร.ม. ในโซน F, G มาตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ เพื่อปล่อยเช่าในราคา 5,000-6,000 บาทต่อเดือน หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ แอลพีเอ็น เปิดเผยว่า การพัฒนาคอนโดฯเพื่อปล่อยเช่า ด้วยการนำห้องชุดในโซน F และ G มาตกแต่งเพื่อปล่อยเช่านั้น เป็นเป้าหมายบริษัทในการสร้างความยั่งยืนจากรายได้ (Recurring Income) และที่ประเดิมโซนรังสิตเป็นแห่งแรก เพราะมองเห็นโอกาสความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในโซนนี้
ทั้งจากดอนเมือง รังสิต ปทุมธานี พบว่ามีคนที่ต้องการอยากมีบ้านเป็นจำนวนมากของกลุ่ม White collar คนทำงานจากภาครัฐและเอกชน เฉพาะในฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิตมีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และพนักงาน สจ๊วต แอร์โฮสเตท ที่ทำงานสนามบินดอนเมือง เป็นต้น
“เกือบ 6 เดือนที่เราเริ่มนำห้องชุดปล่อยเช่าได้รับการตอบรับที่ดี อาคารแรกมีผู้เช่าเต็ม 100% ส่วนอาคารที่สองมีคนเช่าแล้ว 85% และกำลังเปิดให้เช่าในอาคารที่สาม”
นายสุรวุฒิ กล่าวด้วยว่าแม้จะเป็นห้องชุดเพื่อปล่อยเช่า แต่บริษัทยังลงทุนเพิ่มคุณค่าให้การอยู่อาศัย เสมือนบ้านของตนเอง โดยจัด Facility ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยพื้นที่ “ ส่วนกลาง” Public Zone ที่มีทั้งห้องฟิตเนส, “Co-Living Space” ฟรี WIFI แยกส่วนจากลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯ เพื่อให้คน Gen Y ใช้ชีวิตได้สะดวกและสบาย
นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ เช่น ฟรี รถตู้รับ-ส่ง ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต 19 รอบต่อวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น./ รถสองแถว รับ-ส่งในโครงการ (มีค่าบริการ) บริการยืมรถจักรยาน (ปั่นในโครงการ)/ Blue Mart : ตู้ขายของอัจฉริยะ ใช้จ่ายผ่านแอพทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง/ Wash Coin : บริการเครื่องซักผ้าออนไลน์ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐาน LPN Security
รับ ‘เอเจนท์ ฟรีแลนซ์’ ช่วยหาผู้เช่า
นอกจากทำประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ และสื่อสารกับคนอยู่อาศัยในพื้นที่ผ่านสื่อท้องถิ่นแล้ว บริษัทยังเปิดรับตัวแทนขาย และกลุ่มคนทำงานอิสระ ลูกค้าและผู้เช่าโครงการ หรือผู้ที่ต้องการหารายได้เพิ่มผ่านการทำงานแบบฟรีแลนซ์ที่เห็นโอกาสในการสร้างหารายได้เสริม ด้วยการแนะนำเพื่อน หรือหาผู้เช่ามาเช่าในโครงการ
โดยลูกค้าที่สนใจเช่าห้องชุดในโครงการสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที ด้วยเงื่อนไข จ่ายค่าประกัน 1 เดือน, ค่าสาธารณูปโภค 3,000 บาท, ค่าเช่า 1 เดือน, สัญญาเช่า 1 ปี รวมค่าน้ำ ค่าไฟ
ที่ผ่านมายอดผู้เช่าส่วนใหญ่ มาจากการแนะนำจากเอเจนท์ และฟรีแลนซ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้า LPN
นายสุรวุฒิ กล่าวว่า กลยุทธ์นำห้องชุดในบางโครงการ บางทำเลมาปล่อยเช่าในราคาที่เหมาะสม จะดำเนินการควบคู่ไปกับการขาย โดยมีมาตรฐาคุณภาพแอลพีเอ็น ภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” และบริษัทยังมีแผนขยายคอนโดให้เช่าในทำเลอื่นๆ ด้วย