Properties

‘พฤกษา’อัดแคมเปญดุระบายสต๊อก 9.7 หมื่นล้าน

ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มบริษัทพฤษาเรียลเอสเตท ที่นำโด่งทั้งจำนวนการเปิดโครงการใหม่ มูลค่ารวมโครงการเปิดใหม่ และแน่นอนน่าจะเป็นผู้นำสต็อกโครงการรอขายมากที่สุดในตลาด ด้วยจำนวนบ้าน-คอนโด 192 โครงการมูลค่าโครงการรอขายรวม 97,931 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่พฤกษานำมาจัดแคมเปญ “ลดใหญ่ แถมใหญ่ แจกใหญ่” ที่กำลังทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายได้ตามเป้า โดยชูกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ ที่เน้นสื่อดิจิตอลเข้าตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้สามารถปิดการขายได้เร็วกว่าปกติค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี ด้วยแคมเปญยิ่งใหญ่ “Pruksa 25th Year Big Sale Ever ลดใหญ่ แถมใหญ่ แจกใหญ่” โดยการมอบส่วนลด ของแถม และลุ้นรับรางวัลใหญ่ คอนโด สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และ Samsung Galaxy Note 9 รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

สต็อกอสังหาฯ พฤกษา
สต็อกอสังหาฯ พฤกษา ณ ไตรมาส 3/2561

แคมเปญดังกล่าว เป็นโปรโมชั่นประจำปี ซึ่งปีนี้บริษัทต้องการเร่งระบายสต็อกสินค้ารอขายออกไปให้มากที่สุด โดยข้อมูลล่าสุด พฤกษามีสินค้ารอขายทั้งบ้านและคอนโดรวม 192 โครงการมูลค่าโครงการรอขายรวม 97,931 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำตลาดได้ดี เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทใช้กลยุทธดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง สร้างกระแสตอบรับได้เป็นอย่างดี ทำให้ผลประกอบการ 9 เดือนที่ผ่านมา มีผลงานที่น่าพอใจ

9 เดือนกำไรสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท

ผลประกอบการ 9 เดือน พฤกษาฯมีกำไรสุทธิ 4,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน มียอดขาย 39,196 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 30,480 ล้านบาท ซึ่งมาจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ New Marketing Approach ซึ่งเป็นการทำการตลาดรูปแบบใหม่ โดยเน้นการใช้สื่อดิจิตอลเพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

โดยครั้งแรกในการเปิดจอง Online ของพฤกษา ในโครงการ “The Tree ดินแดง – ราชปรารภ” สามารถปิดการขายจาก Online Booking อย่างรวดเร็วภายใน 10 นาที ทำให้สามารถช่วยปิดการขายทั้งโครงการได้ และการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ “พฤกษาวิลล์ มิสทีน รามคำแหง – วงแหวน” ทาวน์โฮมในทำเลที่ดีที่สุดบนถนนรามคำแหง เปิดขายเพียง 2 วัน สามารถทำสถิติปิดการขายเฟสแรก สร้างยอดขายไปกว่า 650 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังรวมถึงโครงการบ้านเดี่ยว “ภัสสร บางนา – วงแหวน” เปิดขาย 2 วัน สามารถกวาดยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ และยังมีโครงการอื่นๆ ที่เป็นไฮไลท์ของพฤกษาอีกหลายโครงการ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทสามารถสร้างยอดรอรับรู้รายได้ แบ็คล็อค (Backlog) รวม 35,749 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 11.3%

15 โครงการใหม่พฤกษา
แผนเปิด 15 โครงการใหม่ไตรมาส 4/2561

ครองเจ้าตลาดทาวน์เฮ้าส์สัดส่วน 21%

แบ็คล็อตดังกล่าว จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 11,784 ล้านบาท และทำให้สิ้นไตรมาส 3 พฤกษา ยังครองส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ที่ 10% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด และยังคงรักษาแชมป์เจ้าตลาดทาวน์เฮาส์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่ที่ 21%

สำหรับแผนดำเนินงาน เพื่อครองความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ พฤกษาฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 15 โครงการ มูลค่า 11,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ และโครงการแนวสูง 3 โครงการ โดยช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการพรีเมียม “เดอะรีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์” ราคาเริ่มต้น 12 – 60 ล้านบาท ได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม นางสุพัตรา กล่าวว่า สัดส่วนสินค้าในพอร์ตพฤกษา ปีนี้ยังคงให้น้ำหนักที่คอนโด และทาวน์เฮ้าส์ โดยสัดส่วนคอนโด 40% ทาวน์เฮ้าส์ 40% และอีก 20% เป็นบ้านเดี่ยว

แบ็คล็อกพฤกษา
ยอดแบ็คล็อกพฤกษา ขายแล้วรอโอน ณ ไตรมาส 3/2561

มาตรการธปท.ช่วยเร่งยอดขาย-โอน

ส่วนมาตรการเข้มงวดที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศออกมาล่าสุด ผู้บริหารพฤกษา ยืนยันว่าคงไม่กระทบกับบริษัทเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หรือเป็น Real Demand ซึ่งในส่วนของทาวน์เฮ้าส์ มีสัดส่วนผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง 80-90% และคอนโดมีลูกค้าที่เป็นการซื้อสัญญาที่สอง อยู่ประมาณ 20% แต่เนื่องจากคอนโดเป็นโครงการที่ใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี ดังนั้นการขายภายใต้ประกาศธปท. ก็มีเวลาให้ลูกค้าผ่อนดาวน์ได้ตามจำนวนที่ 20% ได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารพฤกษามองว่า มาตรการที่ออกมากกลับส่งผลดี เพราะเป็นตัวช่วยเร่งการโอนให้เร็วขึ้น เร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เร็วขึ้นด้วย

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ นางสุพัตรา กล่าวว่า ข้อมูลที่รวบรวมมาได้พบว่า 9 เดือน มีซัพพลายอสังหาฯในตลาดรวมมูลค่า 8 แสนล้านบาท เป็นจำนวน 1.8 แสนยูนิต และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่มูลค่ารวม 3.9 แสนล้านบาท มาจาก 320 โครงการ ถือว่าตลาดขยายตัวตามปกติ และปีหน้าคาดว่าตลาดอสังหาฯน่าจะเติบโตราว 5% เนื่องจากฐานตลาดค่อนข้างใหญ่ในปัจจุบัน

 

 

 

 

 

Avatar photo